1. โฉนดที่ดินที่เป็นมรดกของพ่อแม่ผม ซึ่งยกและโอนให้ตัวผม 2 ฉบับ (2แปลง)ระหว่างสมรส,

      คำถาม : ผมเป็นเจ้าของคนเดียวใช่ไหม?

2. รถคันเก่าซื้อเป็นชื่อผมและซื้อก่อนจดทะเบียนสมรส

      คำถาม : ผมเป็นเจ้าของคนเดียวใช่ไหม?

3. บ้านหลังแรกซื้อปี2542 (กู้ร่วมทั้งสองคน กับ ธอส.ไถ่ถอนจากจำนองแล้วเมื่อปี2550) แต่ว่า..วันที่16

    ม.ค.2551(หลังหย่าแล้ว)ผมกับภรรยาได้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับธนาคารกรุงศรีฯ เลขที่ 1503209144

    เงินกู้จำนวนเงิน720,000  บาท (ก่อนที่จะตัดสินใจเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองภรรยา ไม่ยอมฟังถึงเรื่องต้อง

    แบกภาระดอกเบี้ย จะเอามาเป็นลงทุน)

        คำถาม : กู้ร่วมต้องชำระหนี้คนละครึ่งใช่ไหม?

4. บ้านหลังที่สอง ซื้อเมื่อ17 ต.ค.2549 (วันที่โอนบ้านและจำนองกับสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ของบริษัทที่ผม

    ทำงานอยู่ผมเป็นผู้กู้และจำนองคนเดียว) และภรรยาย้ายชื่อเข้าอยู่ทะเบียนบ้านใหม่เมื่อ 30 ม.ค.2550

    (ก่อนหย่า) สถานภาพเจ้าบ้าน,ส่วนชื่อผมยังอยู่ที่ทะเบียนบ้านหลังแรกอยู่

        คำถาม :  ผมเป็นเจ้าของและมีสิทธิในบ้านหลังนี้และยังสามรถเข้าออก รวมทั้งอยู่อาศัยในบ้าน

                       หลังใหม่นี้อยู่ใช่ไหม?

        คำถาม : ผมมีสิทธิขับไล่ บุคคลที่3 ไม่ให้ อาศัยอยู่ในบ้านหลังที่นี้ได้ใช่ไหม?ซึ่งวันที่ 8 ก.พ. 2551

                       ภรรยาผมพาผู้ชายคนใหม่ข้ามาอยู่ในบ้าน(เขาทำเพื่อประชดตัวผม) และภรรยาผมอ้างว่า

                       ตัวเองเป็นเจ้าของบ้านสามรถจะเอาใครเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้และไล่ตัวผมกับ แม่ของ

                       เขาเองซึ่งเป็นแม่ยายผมเองออกจากบ้าน,โดยที่ภรรยาผมอายุ 35 ปี ส่วนผู้ชายคนใหม่ที่

                       พาเข้ามาอยู่ในบ้านอายุ 30 ปี ซึ่งทางผมและญาติฝ่ายภรรยาผมกลัวมันจะลังแกลูกสาวผม

                       และเกิดปัญหาพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงและพญาเทครัวเพราะผู้ชายคนใหม่นี้ เพิ่งหย่ากับเมียมาใหม่ๆ

                       และแถมยังมีลูกมาแล้วถึง 2 คน แต่ภรรยาผม ก็ยังหน้ามืด ถึงขนาดพยามยามให้ลูกสาวผมเรียก

                       มันว่าพ่อเลย,ที่ผ่านมาผมเป็นคนที่ยอมๆภรรยามาตลอด พอผมตัดบัญชีเงิน ที่ให้ใช้เท่านั้นแหละ

                       ภรรยาผมอาละวาด หนัก,สงสารลูกสาว 2 คนกำลังจะสอบและติดแม่(ส่วนทางญาติฝ่าย ภรรยา

                       ผมคิดกันว่าภรรยาผมโดนของเขมรเข้าก็ทำการแก้กันยกใหญ่)

        คำถาม : ผมจะขับไล่ผู้ชายคนใหม่ด้วยวีธีไหนดีครับ? เพราะเป็นห่วงลูกสารผมมาก วันที่ 3 มี.ค.2551

                       ผมไปแจ้งความและให้เจ้าหน้าที่บันทึก ประจำวันไว้ว่า ภรรยาผมกำลังคิดขู่ฆ่าผม โดยมีผู้ชายคน

                        ใหม่เป็นคนเป่าหูอยู่ ซึ่งเมื่อวาน ก็บุกไปราวีผมถึงบ้านหลังแรกผมไม่ อยากจะใช้กำลัง ตอบโต้

                        เพราะผมสงสารลูกสาวผม

 5.  เป็นสมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ ธุรกิจก๊าซ ปตท.มาแล้วประมาณ 7-ปี โดยซื้อหุ้นๆละ10 บาท/รายเดือนๆ

      2000บาท และ สะสมไว้ ซึ่งตอนนี้มีอยู่ ประมาณ200,400 บาท แต่ว่าจำนวนหุ้นทั้งหมดนี้ถูกใช้เอาไปค้ำ

      ประกันเงินกู้สามัญเลขที่ ส.091/51(กู้ 1,000,000) และกู้ซื้อบ้านเลขที่ พอ.002/50(กู้ 3,000,000)  กับ

      สหกรณ์ออมทรัพย์ ธุรกิจก๊าซ ปตท.ไว้

        คำถาม : ภรรยาผม ไม่มีสิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งเงินจำนวนนี้ใช้ไหม?

6. เงินสะสมของกองทุนเลี้ยงชีพ

        คำถาม : ภรรยาผม ไม่มีสิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งเงินจำนวนนี้ใช้ไหม?

7. ประกันกลุ่มVAI (เสียชีวิตเท่านั้น~3,000,000) ซื้อผ่านบริษัทที่ผมทำงานอยู่เบี้ยเดือนละ 550บาท... คุ้มครอง

     ...ตัวผม 100%ภรรยา 50%ลูก คนละ25%

        คำถาม : สามารถเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ได้ไหม?( ตอนนี้เป็นแม่ผมกับภรรยาซึ่งจะเปลียนมา เป็นแม่ผม

                      กับลูกแทน)

       คำถาม :  และจำเป็น ต้องตัดเบี้ยประกันส่วน ของภรรยาออกหรือเปล่า? ถ้าไม่ตัดเบี้ยประกันส่วน

                       ของภรรยาออก ผู้รับผลประโยชน์ ยังเป็นของแม่ผมกับลูกอยู่หรือเปล่า?(หย่าแล้ว)

8        คำถาม :  ภรรยาผมสามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูย้อนหลังได้ไหมครับ?ซึ่งเขาจะเรียกเดือนละ 40,000 บาท

                         ซึ่งรายจ่ายและภาระของผมมีมากอยู่แล้วด้วย

9.      คำถาม : เงินโบนัสที่บริษทจ่ายให้ผม ภรรยาผม ไม่มีสิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งเงินจำนวนนี้ใช้ไหม?

10.   คำถาม :หนี้ และ สินสมรส ต้องหารสองใช่ไหมครับ

11.   คำถาม : สินสมรส รวมถึง ทองคำด้วยใช่ไหมครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ