1 สามีและดิฉันจำเลยที่ 2โดนฟ้องที่ดินเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2541 ขณะนี้ที่ดินแปลงนี้หมดอายุความหรือยังคะ

2 เมื่อปี 2546 บิดาโอนที่ดินแปลงใหม่ให้สามี 2 แปลง จากนั้นสามีก็โอนให้ลูกชายเมื่อปี 2550 โดยไม่ทราบว่าธนาคารจะเข้ามายึดทรัพย์เพิ่มอีกหลังจากเอาที่ดินไปขายทอดตลาดแล้ว และมูลค่าไม่เพียงพอ  ธนาคารจึงฟ้องสามีเป็นคดีอาญามาตรา 351 มีโทษอย่างไรบ้าง

3 และฟ้องล้มละลายด้วยธนาคารสามารถเข้ามายึดทรัพย์ที่โอนไปให้ลูกได้หรือเปล่าคะ

4 และสามารถฟ้องเอาทรัพย์สินจากดิฉันด้วยหรือเปล่าคะเป็นทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการจำนอง

5 ตอนนี้ธนาคารเรียกเงิน 800,000 บาท แต่ยังไม่มีให้เพื่อให้ทุกอย่างยุติ

ที่ผ่านมาเลี้ยงกังได้รับความเสียหายและทำงานใช้หนี้จนเบาบางแล้ว และรักษามารดาที่ป่วยเป็นมะเร็ง และช่วยบิดาไถ่ถอนที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้ยังมีความจำ

เป็นต้องมีภาะเลี้ยงดู่ครอบครัว และชำระหนี้ให้กับ ธนาคารอื่นอยู่ดิฉันไม่ทราบว่าต้องทำอะไรบ้างรู้สึกสับสนมาก

1.  ไม่เข้าใจคำถามว่าเกี่ยวอะไรกับที่ดินหมดอายุความหรือยัง เพราะที่ดินนั้นไม่มีอายุความ เป็นของใครก็เป็นของคนนั้นตลอดไป จะกี่ร้อยปี ก็ยังเป็นของคนนั้นจนกว่าจะขายหรือให้ใครเขาไป  ส่วนคดีที่ฟ้องกันนั้น ถ้าถามว่าคดีหมดอายุความหรือยัง ก็มีหลักอยู่ว่า เมื่อมีการฟ้องคดีในศาลแล้ว อายุความก็จะสะดุดหยุดอยู่เพียงนั้น ไม่เดินนหน้าต่อไป   ลำบากจริงนะ จะตอบคำถามยังต้องนั่งเดาคำถาม เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้ถามมักจะรับฟังอะไร ๆ เขามาแล้วก็นึกว่ารู้กฎหมาย ก็เลยเอาความรู้นั้นมาผสมผสานกับคำถาม แทนที่จะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และอยากรู้อะไร ซึ่งจะง่ายกว่าเยอะเลย

2. คดีที่เขาฟ้องน่าจะเป็นมาตรา ๓๕๐ ของประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ถ้าเป็นการโอนให้เฉย ๆ เจ้าหนี้ก็อาจมาตามเอาได้

4. ถ้าทรัพย์สินของคุณเป็นสินส่วนตัว ก็มาเอาไม่ได้ แต่ถ้าเป็นสินสมรส ก็ต้องแยกกันเสียก่อน ส่วนของสามี เขามาเอาได้ แต่ส่วนของคุณเจ้าหนี้มาเอาไม่ได้

5.  ควรปรึกษากับทนายความ เพราะทนายเขาจะได้ซักถามว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เมื่อเขารู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแล้วเขาจะได้แนะนำได้ว่าควรทำอย่างไร