เรียนอาจารย์ มีชัย
สามีมีเมียน้อย และต้องการหย่า มาตลอดปี 50 ซึ่งสามีมีเมียน้อย ปลายปี 49
ปี 51 ดิฉันตัดสินใจหย่า แต่ต้องการสมบัติ และขอค่าเลี้ยงดู ลูกชายที่พิการ เพื่อนสามีทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย ไม่อยากเห็นครอบครัว เพือนผูงแตกแยก ขอให้ดิฉัน ยอมให้ สามีซื้อบ้านให้เมียน้อยซึ่ง(อายุ 30 เศษ) อยู่ ดิฉันคิดว่า ทุกวันนี้ สามี66 ดิฉัน 61 แต่งงานมา36 ปี มีลูก 3 คน ลูกสาวคนเล็กแต่งงานแล้ว เหลือลูกสาวคนโต และลูกชายที่พิการ อายุ 33 ดิฉัน คิดว่าไหนไหน สามี ก็ไม่มีใจให้ครอบครัว ซ้ำร้าย ระหว่าง ปี 50 ครอบครัวก็ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ที่ดิฉันไม่ยอมหย่า ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า สักวันหนึ่ง คงเห็นใจลูกเมี่ย ซึ่ง อยู่ร่วมกัน 36 ปี ทุกวันนี้ ลูก ๆ กับดิฉัน ก็ยังคงทำงานในบริษัทที่เราร่วมสร้างกันมา แต่เขาไม่เคยเหลียวหลังมาดูเลยว่า ดิฉันและลูก ๆ มีความทุกข์ ยังคงมีความสุขกับเมียน้อย ตลอดเวลา สามีด่า ลูกสาว เสียๆ หาย ๆ และทำทุกอย่าง ที่สามารถ ทำร้ายจิตใจคนในบ้าน คนแรกคือดิฉัน ต้องทุกข์ ทรมานใจแค่ไหน และ ลูก ๆ ก็มีความทุกข์ ไม่น้อยไปกว่า ดิฉัน ที่ต้องทนเห็น ผู้ชายผู้เป็นพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำร้ายจิตใจคนในบ้าน ดิฉันก็ตัดสินใจว่า ในเมื่อทุกวันนี้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อย่างน้อยก็ยังคงเก็บบริษัท ไว้ทำต่อ เพื่อมีรายได้ดำรงชีวิต ต่อไป
ดิฉันจะให้สามี โอน บ้านและที่ดิน ขอเงินสด เท่าที่ สามีจะเอาไปซื้อบ้าน ให้เมียน้อย ให้ลูก และ ดิฉัน แต่ดิฉัน ก็เกรงว่า หลังจากที่ สามีไปอยู่กับเมียน้อยที่บ้านหลังใหม่ เมียน้อยเป็นคนมีความรู้ จบปริญญาโท ฉ้อเลาะเก่ง อ้อนเก่ง จะขอบ้านและที่ดิน ที่โอนให้ลูกและเมียคืน สำหรับของดิฉัน ถ้าสามีโอนให้ แต่ทะเบียนสมรส ยังอยู่ก็คงไม่มีปัญหา แต่สำหรับที่โอนให้ลูก สามีจะทวงคืนได้ไหม เพราะ คิดว่า ถ้าสามี ยังคงมีสติอยู่ คงไม่ช่วยเมียน้อย ทำร้ายจิตใจ ดิฉัน และลูก ๆ ซึ่งอยู่ร่วมกันมา 30 กว่าปี ดิฉันมีวิธีที่จะป้องกัน ไม่ให้สามีทวงคืนได้ไหม รวมทั้งเงินที่แบ่งให้ดิฉันด้วย
ทำไมผู้ชายถึงเป็นแบบนี้ มากเลยทีเดียว และทำไม ผู้หญิง ที่มีความรู้มากมาย จบปริญญาโท ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน โดยไม่คิดถึงศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง (ผู้หญิงคนนี้ ก็มีสามีมาก่อนแล้ว) และก็ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก
เมียหลวง