ด้วย กระผมเป็นสมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สอ.กฟผ.)        มานานกว่า 20 ปี มีหุ้นอยู่กว่า 700,000 บาท ไม่เคยกระทำผิดระเบียบของ สอ.กฟผ. หรือใช้สิทธิพิเศษ ในการกู้เงิน จ่ายเงินกู้ถูกต้องครบถ้วนมาโดยตลอด มาจนถึง เดือนสิงหาคม 2550 มีปัญหาดังนี้
                       1. กระผมถูกคำสั่ง กฟผ. ให้ออกจากงาน เนื่องจากความผิดวินัยกฟผ. ในข้อหา   เป็นชู้กับภรรยาผู้ปฏิบัติงาน เมื่อ 15 สิงหาคม 2550   ก่อนหน้านั้นภรรยากระผมติดต่อกับ สอ.กฟผ.ตลอด เรื่องการจ่ายค่าหุ้นและชำระเงินกู้ ด้วยเกรงว่าผู้ค้ำประกันจะเดือดร้อน โดยยินยอมให้หักจากหน้าซองเงินเดือนของภรรยา หรือให้โอนเงินเข้า สอ.ก็ได้ ในระหว่างรอการอุทธรณ์ประมาณ 2 เดือน   เพราะกระผมถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด

ยังมีสิทธิอุทธรณ์จึงถือว่าสิ้นสุด
                        2. ได้รับการปฏิเสธจากสอ. บังคับให้ผมเคลียร์เงินกู้ และนำหุ้น 700,000 กว่าบาท หักกลบเงินกู้ ซึ่งมากกว่าค่าหุ้นเล็กน้อย และให้โอนเงินกู้ส่วนที่เหลือส่ง สอ. กระผมปฏิบัติตาม
                        3. กระผมอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์โทษทางวินัย กฟผ.ผลการอุทธรณ์  กระผมไม่มีความผิดฐานเป็นชู้  แต่มีความผิดฐานไม่รักษาชื่อเสียงของ กฟผ. ให้กลับเข้าทำงานในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550  โดยให้นับอายุงานต่อเนื่อง (หมายความว่า ไม่ต้องสมัครเข้าทำงานใหม่  อายุงานเป็นปกติไม่ตัดทอนอายุงาน  หรือเริ่มนับใหม่  ไม่มีวันทำงานไหนที่หายไป ใช้เลขประจำตัวเดิม  รับเงินเดือนอัตราเดิมลบ 20 % จากโทษที่ได้รับจากการอุทธรณ์)
                         4. กระผมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ สอ.กฟผ. ขอกลับเข้าเป็นสมาชิกตามเดิม  และขอเงินปันผล เพราะถือว่าที่ออกจากงานนั้น ไม่ถือเป็นการออกงาน เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด เป็นเพียงรอการอุทธรณ์ ซึ่งสำหรับความคิดของกระผม กระผมคิดว่า ถ้าศาลชั้นต้น ตัดสินคุณติดคุก 20 ปี  ในระหว่างที่รออุทธรณ์และฎีกา ถ้าไม่ประกันตัว ต้องติดคุกก่อนรอการอุทธรณ์ ฎีกา ต่อมาศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง    จะถือว่าคุณติดคุกไม่ได้  ไม่ว่า 20 ปี  หรือกี่วันก็แล้วแต่ที่รอฎีกา  เพราะในเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด  ตามรัฐธรรมนูญ และกฏหมายต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ หลังฎีกาสภาพของคุณจะต้องกลายมาเป็นผู้บริสุทธิ์  มิฉะนั้นจะต้องมีประวัติการติดคุกติดตัวคุณไป  ผมคิดต่อไปว่า สมมุติว่าโทษทางวินัยมีโทษประหารชีวิต หมายความว่าผมต้องถูกประหารชีวิต  โดยไม่ได้อุทธรณ์ทั้งที่มีสทธิ์อุทธรณ์ และต้องถูกออกจาก สอ.กฟผ.  เพราะตายถูกต้องหรือไม่  ในความเป็นจริงย่อมต้องรอการอุทธรณ์    คือไม่ได้รับโทษประหาร    จะยังไม่มีการประหารชีวิต  แล้วถ้าอุทธรณ์เหลือโทษเพียงแค่ลดเงินเดือน  หมายความว่าผมได้รับโทษ  ประหารไปแล้วหรือยัง        ถ้ารับโทษไปแล้ว กระผมก็ต้องตายไปก่อนแล้วมิใช่หรือ ใครจะออกใบมรณะบัตรให้กระผม  และย่อมต้องหมดสมาชิกภาพ สอ.กฟผ.อย่างนั้นหรือ

                5. คณะกรรมการ  ไม่ยินยอมให้กลับเป็นสมาชิก  และไม่ให้เงินปันผล   โดยอ้างว่าผิดระเบียบของ สอ.กฟผ. กระผมไม่เป็นผู้ปฏิบัติงานกฟผ. แต่ให้สมัครใหม่เสียค่าสมัคร 500 บาท  ได้ทันทีทั้งๆที่ตามระเบียบต้องรอ 1 ปี และสามารถกู้เงินได้เลย ทั้งที่ตามระเบียบต้องมีหุ้นถึงเกณฑ์ แต่กลับสามารถพิจารณาเป็นกรณีพิเศษให้ได้ ทำไม
               ผมคิดว่าหลักการน่าจะเป็นว่า  กฎระเบียบข้อบังคับขององค์กร ต้องเป็นไปตาม  กฎกระทรวง   กฎหมาย  พรบ. พรก. รัฐธรรมนูญ    จะอ้างกฏระเบียบที่ขัดต่อกฎหมายไม่ได้  ต้องเป็นโมฆะ เพราะทุกคนย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด มิฉะนั้น ผมก็สามารถตั้งองค์กร ขึ้นมา เรียกหุ้นจากองค์การก่อการร้าย รับซื้อศพ ศพละ 1 ล้านบาท ก็ได้ แล้วโจรใต้ ซุ้มมือปืน ไม่ยิ้มหรือครับ แล้วการอ้างผิดระเบียบนั้น    แล้วมีระเบียบข้อไหนที่ให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ทันที ไม่ต้องรอ 1 ปี กู้เงินได้ไม่ต้องมีหุ้นถึงเกณฑ์ ผิดระเบียบชัดเจน แต่ไม่สนใจระเบียบนั้นเลย ถูกหรือครับ

               6. กระผมยื่นอุทธรณ์ต่อประธานคณะกรรมการ สอ.กฟผ. คณะกรรมการมีมติยืนตามเดิม โดยอ้างว่ากระผมไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. ถูกต้องหรือไม่ และทำไมข้อนี้ไม่มีการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่สมัครเป็นสมาชิกได้ทันทีไม่ต้องรอ 1 ปี กู้เงินได้ ไม่คำนึงถึงระเบียบใดๆ   ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าได้ดอกเบี้ย ไม่คำนึงถึงระเบียบ แต่ถ้าเสียเงินปันผล ต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด  และที่ท่านกรรมการพิจารณนั้น ถูกต้องตามระเบียบหรือ ตีความเอา เองครับ กระผมยังเป็นผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.อยู่หรือไม่

              7. ท่านกรรมการว่าท่านถูก แต่กระผมยังเห็นว่าน่าจะผิดกฏหมาย เพราะคดีทางวินัยยังไม่สิ้นสุด จะถือว่ากระผมไม่เป็นผู้ปฏิบัติงานกฟผ.ไม่ได้ และหุ้นของผม 700,000 กว่าบาทนำไปออกดอกออกผลเกือบ 1 ปี  แต่ไม่คืนผลประโยช์ให้กระผมแม้แต่บาทเดียว คณะกรรมการ สอ.กฟผ.  คิดแต่เพียงดูถูกเหยียดหยามว่า  สมาชิกทุกท่าน ต้องการเพียงแต่กู้เงินเท่านั้น  และถ้าให้กระผมกู้เป็นผลประโยชน์ของ   สอ.กฟผ. ได้ดอกเบี้ย  แต่ถ้าจ่ายปันผลให้กระผมเป็นการเสียประโยชน์ นำเงินหุ้นของกระผมกว่า 700,000 บาทไปออกดอกออกผล แต่ไม่จ่ายผลประโยชน์กลับคืน  ไม่สนใจความถูกต้องใดๆ ความคิดผมถูกไหมครับ
              9. สรุปคือทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรมการ และพวกมากลากไป จะตัดสินอย่างไรอยู่ที่ ตัวกู พวกกู ถูกระเบียบบ้าง จะผิดระเบียบบ้างก็ได้ แล้วแต่ใจกู ถ้าได้เอา เสียไม่ยอมจ่าย ไม่มีหลักมีเกณฑ์ใดๆ เลยว่ากรณีไหนพิจารณาเป็นพิเศษได้ อันไหนไม่ได้ ใช่หรือไม่ครับ

                ขอถามคุณมีชัยฯ ว่าความคิดของกระผมทั้งหมดนี้ ถูกต้องหรือผิดครับ ถ้าผมจะฟ้องร้อง ผลน่าจะเป็นอย่างไรครับ