ดิฉันขอความกรุณาช่วยตอบคำถามค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า บ้านที่ดิฉันอยู่ตอนนี้ อยู่มาเป็นระยะเวลาร่วม 30 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ดินแถวนี้เป็นของชาวบ้านแต่โรงงานก็ซื้อไปหมด เหลือแต่ของดิฉัน ซึ่งอยู่ด้านในสุด ซึ่งไม่ได้ขาย แต่โรงงานก็อยากได้ที่ดินส่วนนี้เพราะจะได้เป็นผืนเดียวกัน ดิฉันไม่อยากขายเนื่องจากเป็นที่ดินบรรพบุรุษและก็ใกล้กับโรงงานที่ดิฉันทำอยู่ด้วย แต่โรงงานก็มักจะเอาเปรียบดิฉันเสมอ เช่น ปิดทางเข้าออก พอแค่ให้คนเดินได้ รถเข้าไม่ได้ ถ้าจะเอารถเข้าก็ต้องไปขอกุญแจจากเขา ซึ่งเขาก็ไม่พอใจนัก ที่บ้านพักคนงาน เขาก็ปลูกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ ดิฉันเคยสายหนามกั้น เขาก็แกะออกหมด ดิฉันเคยบอกกับโรงงานแล้วแต่เขาไม่ทำอะไร นิ่งเฉย พอดิฉันจะต่อน้ำประปา เขาก็ไม่ให้ผ่านที่โรงงานเขา ดิฉันก็ต้องสูบน้ำจากแม่น้ำมาใช้ซึ่งเป็นน้ำดำมาก สกปรกมาก เพราะโรงงานปล่อยน้ำเสียมา เขาพยายามบีบบ้านของดิฉันมาก ดิฉันก็สุดทน สุดท้ายเขาก็มาบอกว่า เขาจะขอแลกที่ดินกับดิฉันอีกฝั่งนึง ให้ที่ดินเท่ากัน และจะปลูกบ้านเหมือนเดิมให้ดิฉัน พร้อมด้วยถมดินให้สูงขึ้นด้วย แต่เรื่องรายละเอียดค่อยคุยกันอีกที วันนี้แค่ตกลงกันก่อน ร่างไปก่อน และให้ดิฉันเซ็นต์สัญญา พร้อมด้วยพยาน ดิฉันก็โง่เซ็นต์ลงไปไม่ได้นึกอะไร นึกแค่ว่าอยากออกจากที่นั่นก่อนและเขาสร้างให้ดิฉันก็พอใจแล้ว แต่ .... ที่ดินที่ใหม่ รถเข้าไม่ถึง ต้องไปผ่านทางพื้นที่สาธารณะเหมือนกัน เป็นทางเดินแคบ ๆ น้ำก็ท่วม ดิฉันก็เลยไม่สบายใจมาก เหมือนกับโง่มาก ๆ เลยที่ดันไปเซ็น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เขาบอกรายละเอียดของโฉนดที่ดินเลย เรื่องแปลนบ้านก็ไม่ได้พูดกันเลย เพราะเขาบอกว่าเขาจะมาทำสัญญากันอีกครั้ง ดิฉันจึงอยากจะเรียนถามว่า
1. ดิฉันขอยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ เนื่องจากที่ดินนี้ ตามโฉนดมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ ทั้งหมด 4 คน ตาย 1 คน ติดต่อไม่ได้เลย 1 คน เหลือ 2 คน ซึ่งเขาไม่ยอม และทางโรงงานก็บอกว่า แค่ร่างไปก่อน จะมาทำสัญญากันอีกที
2. เขาอ้างว่า เขาไปจ่ายค่ามัดจำให้กับเจ้าของที่ดินแล้ว ต้องดำเนินการต่อไปตามสัญญาที่เซ็นชื่อไว้
3. ถ้าเขาฟ้องดิฉันต้องทำอย่างไร ดิฉันคงไม่มีปัญญาไปสู้คดีกับเขาแน่ ๆ