กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ส่งกำลังใจค่ะ อ่านแล้ว เหมือนชีวิตหนูกำลังสู้กับนักการเมืองที่ชอบแก้ปัญหาเหมือนในหนังเรื่อง eraser หนูอยากเป็นแบบนั้น อาจารย์อาจจะรำคาญเด็กบัวใต้น้ำอย่างหนูนะคะ แต่แปลกที่หนูเองก็ยังอยากจะขอความรู้ที่ท่านมี เพื่อเป็นความรู้ ถ้าไม่มีเรื่องคดีความโง่นี้เกิดขึ้น หนูคงขออาสาไปเป็นหน้าห้องอาจารย์ แบบไม่เอาเงินเดือนคะ ชีวิตหนูถนัดที่สุดคือการประสานงาน และพบปะผู้คน แต่ตอนนี้กลับไม่ได้ใช้ความสามารถนั้นเสียแล้ว หนูมีประสบการณ์ด้านการประสานงานมาเกือบ๘ ปีค่ะ งานที่ภูใจคือการได้ไปประสานงาน การประชุมวิสาขบูชาโลก ค่ะ สนุกกับงานมากๆๆ แต่คดีนี้ทำให้หนูไม่กล้าเสนอหน้าไปรับงาน ทั้งๆที่อยากใจจะขาด อาจารย์กับหนูเหมือนไม่มีช่องว่างในการแลกเปลี่ยน แปลก อีกท่านหนึ่งที่คล้ายอาจารย์ คือ ท่านอาจารย์นรนิติ วันนี้ตั้งใจจะไม่คุยเรื่องซีเรียส แต่ขอแวะนิดนึงนะคะ วันนี้ (พฤหัส) ที่๒๔ ท่านหัวหน้าพรรคเชิญนายสส. ไปพบค่ะ หนูไม่อยากหวังกับคนพรรคนี้ สงสัยว่า ประชาชนอย่างหนู คงตายก่อนมากกว่ามาก่อน อาจารย์คะ หนูอยากจะกราบรบกวนถามขั้นตอนและกระบวนการสรรหา ประธานกรรมาธิการ ค่ลูกคนเดียวะ โควต้าเป็นอย่างไรคะ แบ่งแต่ละพรรคใช้เกณฑ์อะไร หนูอยากบอกอาจารย์เหลือเกินค่ะ หนูรู้สึกตื่นเต้นที่เราจะได้ประธานสภาที่ จิ๊กโก๋มากๆค่ะ ผิดฟอร์มกับประธานสภาก่อนๆๆที่แล้วมาอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าอาจารย์นั้นไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น เพราะท่านอาจารย์เป็นผู้ใช้ความสามารถและความรู้ อำนาจ บารมี ในทางที่ถูกต้อง แต่นักการเมืองไทย บางคน เสียดายที่ไม่เป็นตามแบบอย่างของท่าน ถ้าเปลี่ยนท่านอาจารย์เป็นคุณพ่อของหนูที่ท่านเสียไปแล้วเกือบ ๒๐ ปีได้ ทุกอย่างคงคุยได้ดี แต่มันเป็นไปไม่ได้ นี่กระมังค่ะ เด็กขาดพ่อ ลูกคนเดียว เวรกรรมนะคะ หนูขอส่งการสวดมนต์ไปมอบให้อาจารย์บ้างค่ะ ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย และพวกที่ชอบกระแนะกระแหน ว่า เมืองไทยมีนักกฎหมายที่เก่งแค่นี้เหรอ หนูว่า มันก็มีแค่นี้จริงๆ นี่คะ เคารพเสมอ น้ำมณฑ์
เรียน แพะรับบาป
การตั้งกรรมาธิการและประธานกรรมาธิการ เป็นเรื่องการตกลงระหว่างพรรคทั้งหลายที่อยู่ในสภา หาเกณฑ์อะไรที่ชัดเจนไม่ได้หรอก
ในยามที่มีทุกข์ การสวดมนต์เป็นประจำก็อาจช่วยทำให้คลายทุกข์ได้ และบางทีกูศลนั้นก็อาจส่งให้แคล้วคลาดได้เหมือนกัน ว่าง ๆ ก็ลองสวดตามแบบของหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวันดูบ้างก็ได้ ท่านให้ส่วน อิติปิโส ต่อด้วย พาหุง แล้วต่อด้วย มหาการุณิโก เมื่อจบแล้ว ให้สวด อิติปิโส (เฉพาะอิติปิโส โดยไม่รวมสวากขาโตและสุปฏิปัณโณ) ให้ได้เกินอายุ ๑ จบ เช่นอายุ ๔๐ ปี ก็สวด ๔๑ จบ ทุกวัน แล้วอธิษฐานจิตแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เพื่อขออโหสิกรรม และขอพรให้ตัวเองประสบความสุขสันติ