กราบเรียน
อ. มีชัย
เนื่องจากหนูมีปัญหาคาใจมานานแล้ว คือหนูเคยเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วน เพราะแฟนขอใช้ชื่อเพื่อไปรับเหมาก่อสร้างโดยจ้างคนทำบัญชีรับผิดชอบเรื่องการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและรับผิดชอบในเรื่องการเสียภาษีอากรให้ แต่คนทำบัญชีเขาโกง ไม่เสียภาษีให้ ทำให้เป็นหนี้สรรพภากร ตั้งแต่ปี 2539 หนูก็ติดตามคนทำบัญชีเขายอมรับต่อหน้าเจ้าหน้าที่สรรพภากรว่าจะยอมชดใช้หนี้ให้แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมชดใช้จนกระทั่งติดต่อเขาไม่ได้ หนูและแฟนจึงช่วยกันใช้หนี้สรรพภากรที่เป็นตัวภาษีไปประมาณ 50.000 บาทและมีเบี้ยปรับอีกประมาณ 50.000 กว่า เพราะได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สรรพภากรว่าถ้าหากใช้หนี้ตัวภาษีไปแล้วจะได้ไม่มีหนี้เพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ก็เหลือแต่เบี้ยปรับ ปัญหาคือเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ทางสรรพภากรเขาส่งจดหมายอายัดทรัพย์ เป็นสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ของหนู แต่ในบัญชีหนูก็มีเงินไม่มากและหนูอ่านข้อกฏหมายที่เขาส่งมาว่าห้ามยักย้ายถ่านโอน หนูกลัวความผิด หนูก็ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร และได้โทรสอบถามทางเจ้าหน้าที่สรรพภากร ว่าถ้าหนูมีเงินเมื่อไหรค่อยเอาไปใช้ได้ไหมเพราะตอนนี้ยังไม่มี เจ้าหน้าที่ตอบว่าได้ เพราะหนูเหลือแต่เบี้ยปรับ ส่วนตัวภาษีได้ใช้ไปหมดแล้ว ก็ไม่มีเงินเพิ่ม หลังจากนั้นหนูได้ซื้อมอเตอร์ไซด์ โดยการผ่อนชำระเป็นรายเดือนจนหมดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2551 และหนูยังสอบเข้าทำงานเป็นข้าราชการ แต่ยังไม่ได้เรียกตัวเข้าทำงาน ซึ่งอาจจะได้รับเรียกให้บรรจุประมาณเดือน มีนาคม 2551 นี้ หนูมีปัญหาอยากถามว่า
1. ถ้าทางบริษัทที่หนูซื้อมอเตอร์ไซด์ เขาโอนให้หนูเป็นเจ้าของรถ หนูจะมีความผิดฐานยักย้ายถ่านโอน ตามหนังสือที่ทางสรรพภากรบอกไว้หรือไม่ เพราะหนูไม่เอาเงินไปใช้หนี้สรรพภากรแต่เอามาผ่อนมอเตอร์ไซด์
2. ถ้าหนูได้รับหนังสือเรียกให้ไปบรรจุ หนูจะได้บรรจุเป็นข้าราชการหรือไม่ เพราะมีหนี้ค้างกับสรรพภากรอยู่
3. หนูควรทำยังไงดี หรือหาเงินเท่าที่มีอยู่ไปขอชำระหนี้กับสรรพภากรก่อนเพราะจะได้ไม่มีความผิด หากได้ทำงานค่อยใช้ทีหลังได้ไหมค่ะ
4. หนูเป็นหนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่เห็นเขาฟ้องศาล และเขาก็ไม่ได้แจ้งว่าหนูเป็นคนล้มละลาย
5. ทางสรรพภากรเขาจะยกเลิกหนี้ให้เหมือนคนที่ล้มละลายมีอายุ 3 ปี ไหมค่ะ แต่นี้เป็น10 ปีแล้ว ยังไม่เห็นยกเลิกหนี้ให้เลย ที่ไม่อยากจ่ายเบี้ยปรับเพราะหนูคิดว่าไม่ยุติธรรม
เรียน คนไม่รู้
1. ไม่ผิดเพราะคุณไม่ได้ยักย้ายถ่ายเทจากบัญชีที่เขาอายัดไว้
2. ถ้าไม่ถึงขนาดเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวก็คงไม่มีปัญหาอะไร
3. ควรไปเจรจากับเจ้าหน้าที่สรรพากร เพื่อผ่อนชำระให้เขาเมื่อได้งานทำแล้ว
4. เงินเท่านั้นเขาฟ้องล้มละลายไม่ได้
5. เมื่อไม่ชำระภาษี เขาก็มีเบี้ยปรับ ทุกคนก็ต้องโดนอย่างเดียวกัน จะว่าไม่ยุติธรรมไม่ได้หรอก การที่เขายอมให้ชำระในส่วนของภาษีก่อน ก็เป็นบุญหนักหนาแล้ว เพราะถ้าเป็นกรณีของธนาคาร ๆ จะให้ชำระส่วนที่เป็นดอกเบี้ยก่อน