ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    025529 เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่ภู31 ธันวาคม 2550

    คำถาม
    เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่

    เรียน ท่านอาจารย์

    ผมได้ซื้อแฟนไซร์สถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง ก่อนเข้าไปเซ็นสัญญา ผมได้เข้าไปสำรวจสาขาอื่น และได้พูดคุยกับพนักงานของสาขานั้นที่สำคัญผมได้พบประกาศนียบัตรที่ตั้งโชว์ไว้ ว่า Accredited by Ministry of Education" ที่แปลเป็นไทยว่า ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ และในสัญญาระบุว่า "หลักสูตรการเรียนของบริษัทนี้ ได้รับการรับรองให้ใช้ได้" ซึ่งผมเข้าใจว่าต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาฯแน่นอนตามที่เห็นมาก่อนจึงเข้าเซ็นสัญญาถ้าไม่ได้การรับรองจากกระทรวงผมไม่เข้าทำสัญญาแน่นอน

    และในวันเปิดสถาบันสาขาของผมทางบริษัทฯ นั้นได้นำประกาศนียบัตรประเภทเดียวกับที่ผมเห็นในตอนแรกมาตั้งโชว์ไว้ให้มีลายเซ็นเจ้าของบริษัทไว้ด้วย เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์  แต่ต่อมาได้ทราบภายหลังจากการสอบถามไปยังกระทรวงฯ โดยกระทรวงมีหนังสือตอบมาเป็นทางการว่า บริษัทฯดังกล่าวเพิ่งยื่นขอหลักสูตรจากกระทรวงและยังไม่ผ่านการรับรอง  ผมจึงแจ้งไปยังเจ้าของสาขาที่ผมเข้าไปสำรวจก่อนเซ็นสัญญา

    เจ้าของสาขานั้นบอกว่าไม่ทราบมาก่อนจึงส่งสำเนาใบประกาศนียบัตรที่ใช้ประชาสัมพันธ์ที่ผมเห็นในตอนแรกและอีกฉบับที่มีข้อความเช่นเดียวกันซึงแนบอยู่ในคู่มือการบริหารงานมาให้ผมอีกเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีและจะเข้าเป็นพยานรวมถึงอาจจะฟ้องบริษัทดังกล่าวฐานหลอกลวงอีกด้วย

    การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผม พนักงานผม และ ผู้ปกครอง นักเรียน ผมจึงยกเลิกสัญญาไปและจะฟ้องดำเนินคดี เพื่อขอเงินค่าแฟนไซร์ คืน เพื่อนทนายคนหนึ่งแนะว่า แบบนี้ให้ไปแจ้งความไปเลยให้ตำรวจและอัยการฟ้องไป เพราะเข้าข่ายฉ้อโกงหรือหลอกลวงให้ผมเสียทรัพย์  แต่เพื่อนทนายอีกคนยังไม่แน่ใจว่าฟ้องได้กลัวโดนฟ้องกลับให้ฟ้องแพ่งก็พอ  แต่คนแรกก็ว่า จะโดนฟ้องกลับข้อหาอะไร ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง  ไม่ได้แจ้งความเท็จ มีหลักฐานถึงสองสาขาและพยาน

    ผมเลยสับสน  ผมต้องการเงินคืน จึงเรียนถามอาจารย์ว่า จะใช้วิธีในดีครับที่จะดำเนินคดี โดยไม่มีปัญหากับผม

     

    ขอขอบพระคุณอย่างสูง

    คำตอบ

    เรียน คุณภู

    ถ้าจะฟ้องคดีอาญา ก็ควรดำเนินการโดยผ่านทางเจ้าพนักงานตำรวจ  โดยไปแจ้งความเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนการตั้งข้อหาปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยวิธีนี้ คุณก็จะไม่ต้องเสี่ยงภัยต่อการถูกฟ้องกลับ

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    31 ธันวาคม 2550