ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    025395 ต้องการสิทธิปกครองบุตรเพียงผู้เดียวพ่อรักลูกมากกว่าแม่24 ธันวาคม 2550

    คำถาม
    ต้องการสิทธิปกครองบุตรเพียงผู้เดียว

    นายเอและนางสาวบี คบหาดูใจกันมา 8 ปี แต่ยังไม่ได้สมรสกัน นางสาวบีได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตร เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2549 นายเอเป็นผู้ไปแจ้งเกิดและให้บุตรใช้นามสกุลของตน

                    ในขณะเดียวกัน  นายเอได้คบหาดูใจกับนางสาวซีมา 7 ปี แต่ได้ทำการสมรสด้วย  โดยนางสาวซีได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549  นายเอเป็นผู้ไปแจ้งเกิดแต่ใช้นามสกุลมารดา

                นางสาวบีและนางสาวซีรู้จักกันโดยการแนะนำของนายเอ แต่ทั้งสองไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างอีกฝ่ายกับนายเอ

                    เมื่อบุตรนางสาวบี อายุประมาณ 3 เดือน นางสาวบีได้ขอกลับบ้านที่อุตรดิตถ์ ไป 3 วัน คือวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ นายเอจึงฝากเพื่อนข้างห้องให้ช่วยเลี้ยงบุตรให้ แต่นางสาวบีได้ขอเดินทางไปตั้งแต่วันพุธ ซึ่งเพื่อนบ้านคนนั้นติดงานประจำ ไม่สามารถเลี้ยงเด็กได้  นายเอไปทำธุระกลับมาเห็นบุตรนอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง  เพื่อนข้างห้องแจ้งว่านางสาวบีเดินทางไปขณะบุตรนอนหลับ ตนทำงานประจำอยู่ หากได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงจะวิ่งมาดูให้  เนื่องจากบุตรยังเล็กต้องการความดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ  จึงตัดสินใจนำบุตรไปเลี้ยงที่บ้านของนางสาวซี

                    เมื่อนางสาวบีกลับมา ได้พักอาศัยในห้องเช่าต่อไปโดยไม่ได้ประกอบอาชีพ  ผ่านไปประมาณเดือนเศษ นายเอเห็นถึงความลำบากในการดูแลเด็กพร้อมกัน 2 คนของนางสาวซี  และเห็นใจหัวอกแม่ของนางสาวบี ต้องการให้แม่ลูกอยู่ใกล้ชิดกัน จึงได้พานางสาวบีมาพักอาศัยที่บ้านนางสาวซี โดยมีหน้าที่ทำงานบ้านและดูแลบุตรตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2550 เป็นต้นมา

                เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 นางสาวบีทะเลาะกับนายเอ ได้เจรจาขอแยกทาง โดยยกบุตรให้นายเอเลี้ยงดู และไม่มีการติดต่อกันอีก จนผ่านไป 7 วัน นางสาวบีขอกลับมาคืนดีอีกครั้ง  นายเอยินยอมเพราะไม่ต้องการให้ลูกกำพร้าแม่

                    วันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 นางสาวบีขอนำบุตรกลับไปเยี่ยมญาติที่อุตรดิตถ์  โดยขออยู่ 2-3 วัน นายเอขับรถไปส่งโดยตั้งใจจะรอรับกลับมาพร้อมกัน เมื่อครบกำหนดนางสาวบีได้ขออยู่ต่ออีก 2 สัปดาห์  เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2550 นางสาวบีโทรหานายเอว่าจะเดินทางกลับโดยรถไฟถึงสถานีหัวลำโพงวันที่ 3 ธันวาคมเวลาประมาณ 15.00 น. นายเอไปรอรับไม่พบ   โทรสอบถามกับมารดานางสาวบี  ได้ความว่า นั่งรถไฟมาแล้ว นายเอไปรอรับอีกครั้งเมื่อไม่พบจึงได้โทรถามอีกรอบ คราวนี้มารดานางสาวบีแจ้งว่า จองตั๋วไม่ได้   นายเอไม่สามารถติดต่อนางสาวบีได้เนื่องจากโทรศัพท์มือถือหาย เมื่อเห็นว่าไม่ชอบมาพากล นายเอจึงขับรถไปอุตรดิตถ์ภายในวันนั้น  ถึงตอนตี 3 แต่ไม่พบ จึงเดินทางไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความว่านางสาวบีและบุตรหาย  แต่ตำรวจขอให้ลงแค่บันทึกประจำวัน ในขณะที่มารดานางสาวบีแจ้งข้อหาบุกรุกแก่นายเอ  แต่ตำรวจเห็นว่าไม่เข้าข่ายบุกรุก จึงยกไป  เมื่อนายเอเห็นว่าไม่สามารถพบนางสาวบีและบุตร อีกทั้งไม่สามารถสอบถามความจริงจากบุคคลใดได้ จึงจำต้องเดินทางกลับกรุงเทพ แต่ได้พยายามโทรสอบถามบุคคลที่นางสาวบีเคยติดต่อซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน  ไม่มีผู้ใดแจ้งว่าเห็นนางสาวบีหรือบุตร จึงโทรหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือติดตามนางสาวบีให้มาเจรจาว่าต้องการสิ่งใดจากการกระทำดังกล่าว

                    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2550 นางสาวบีได้โทรติดต่อนายเอ ว่าให้หยุดโทรก่อกวนบุคคลรอบข้าง และแจ้งแก่นายเอว่า จะขอเลี้ยงลูกที่บ้านอุตรดิตถ์ ไม่กลับมากรุงเทพอีกแล้ว นายเอได้เจรจาว่า ต้องการอะไรขอให้บอก จะยินยอมทำตามทุกเรื่อง ขอให้ได้ลูกมาเลี้ยงที่กรุงเทพเหมือนเดิม  นางสาวบีขอคิดดูก่อน หลังจากนั้น ไม่มีการติดต่อกลับมา  และโทรศัพท์มือถือก็ปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้

                    ขอถามว่า

    1.      นายเอต้องทำอย่างไรจึงจะมีสิทธิปกครองบุตรโดยชอบแต่เพียงผู้เดียว

    2.      หากจดทะเบียนรับรองบุตร ขอบเขตในการปกครองบุตรมีแค่ไหน

    3.      หากจดทะเบียนสมรส ขอบเขตในการปกครองบุตรมีแค่ไหน

    4.      หากอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย ฝ่ายนางสาวบีมีสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่ ต้องให้เวลาผ่านไปกี่เดือนถึงฟ้องร้องได้

    5.      หากเจรจาไกล่เกลี่ยไม่ได้ผล นายเอร้องขออำนาจศาลในการปกครองบุตร ศาลจะพิจารณาจากสิ่งไหนบ้าง

    6.      ทราบว่า ศาลจะให้อำนาจเลี้ยงดูเป็นของมารดา แต่หากมีผู้อื่นเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเด็กและใช้เวลาอยู่กับเด็กมากกว่ามารดาแท้ ๆ บิดาสามารถนำความข้อนี้มาร้องศาลขอมีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวได้หรือไม่

     

    คำตอบ

    1. ในสายตาของกฎหมายขณะนี้ บุตรเป็นของนางสาวบีคนเดียว นาย เอ ไม่มีสิทธิ

    2. ถ้ามารดาเขาไม่ยอมก็คงต้องฟ้องร้องกันเพื่อให้ศาลตัดสินว่าใครจะปกครองดูแลเด็ก

    3. ถ้าจดทะเบียนสมรสกัน เอย่อมเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจปกครองบุตรได้  แต่การสมรสเป็นเรื่องความสมัครของทั้งสองฝ่ายจะบังคับฝืนใจใครไม่ได้

    4. มี

    5. ศาลก็ต้องพิจารณาว่าฝ่ายชายเป็นบิดาของเด็กหรือไม่ ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่ได้จดทะเบียนรับรองเด็กเป็นบุตร ศาลก็คงไม่รู้จะเอาอะไรมาตัดสินให้เด็กอยู่กับ เอ

    6. ถ้าคนที่ดูแลเด็ก เป็นเมียนอกกฎหมายอีกคนหนึ่ง ศาลคงไม่ยอมให้ไปอยู่ในความดูแล เพราะถึงอย่างไรแม่ก็ย่อมดีกว่าแม้เลี้ยง

    การจับปลาหลายมือก็เป็นทุกข์อย่างนี้แหละ  เมื่ออีกคนหนึ่งเขาตัดใจจากไปแล้ว ก็ควรจะยุติได้ ส่วนลูกนั้น ถ้ารักจริง ก็เจียดเงินส่งเสียให้เขาเติบโตมีการศึกษาก็ได้


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    24 ธันวาคม 2550