เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพรักนับถืออย่างสูง

       ผมยังระลึกถึงอาจารย์อยู่เสมอครับ และเอาใจช่วยในการทำหน้าที่ของอาจารย์มาตลอดครับ ล่องเรือมาฟันฝ่ามรสุม บางครั้งคลื่นแรง ลมแรงบ้างในบางช่วง แต่ด้วยประสบการณ์ของกัปตันที่เยี่ยมยอด ย่อมนำเรือถึงฝั่งอย่างปลอดภัยแน่นอนครับ...

อ้างถึงคำตอบของอาจารย์ ลำดับคำถามที่ 016173 "เมื่อแพทย์เป็นจำเลยคดีอาญา"วันที่ 21 กุมภา 2549  กระผมอยากให้เกิดกระบวนการฟ้องร้องแพทย์เป็นไปตามที่อาจารย์ให้แนวทางมาครั้งที่แล้วมากเลยครับในขณะนี้ เพราะในสิ่งที่คาดการณ์มันเกิดขึ้นมาจริงๆ  ไม่กี่วันมานี้แพทย์ประจำโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญาเพราะฉีดยาชาบล็อกหลังคนไข้เพื่อผ่าตัดใส้ติ่ง แต่ทั้งแพทย์และผู้ป่วยโชคไม่ดี เกิดภาวะแทรกซ้อนจากยาชา ทำให้คนใข้เสียชีวิต เป็นคดีความมาหลายปี จนศาลชั้นต้นตัดสินว่าผิด ต้องจำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญาตามที่เราเห็นในข่าวคราวนั้น ผมรู้สึกเสียใจและเห็นใจทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง และเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆอีกแล้วสำหรับสังคมไทยถ้าปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆ ความเอื้ออารีต่อกันระหว่างแพทย์ผู้ให้การรักษากับคนใข้ผู้ใด้รับการรักษาจะเสื่อมไปมีความระแวงซึ่งกันและกัน ไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทยอีกแล้ว ดังที่เป็นอยู่ขณะนี้ฝ่ายแพทย์มีการรวมกลุ่มเคลื่อนใหวมีการต่อต้านไม่เห็นด้วยต่อการตัดสิน เป็นต้นว่า มาเปรียบเทียบคดีที่เกิดขึ้นเช่น ทำไมดาราดังบางคนขับรถโดยประมาทชนคนตาย ให้ตัดสินจำคุก 3 ปีแต่ให้รอลงอาญา เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมิอาจเปรียบเทียบได้ในแต่ละคดี  ผลร้ายมากๆที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้คือ แพทย์ไม่กล้าผ่าตัดไม่กล้ารักษาจากเดิมที่เคยทำมาตลอดที่โรงพยาบาลชุมชน มีการส่งต่อไปโรงพยาบาลใหญ่ๆมากขึ้น ผู้ป่วยและญาติๆลำบาทมากขึ้นค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเสียโอกาสการทำงาน เสี่ยงเกิดอบัติเหตุในการเดินทาง ๆลๆ มากขึ้น...

  อยากให้สังคมไทยมีความเอื้ออารีต่อกันในทุกๆฝ่าย  อยากให้สังคมแพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์และผู้ป่วยเชื่อมั่นในการดูแลของแพทย์ด้วยศัทธาและเป็นธรรม.....อาจารย์เห็นว่าควรทำอย่างไรดีครับ

 วันนี้ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วก็คึกคักพอควร เป็นห่วงหลังเลือกตั้งมันจะเกิดเหตุรุนแรงและวุ่นวายมากมายในพื้นที่..รู้สึก ล้ากับเหตุการณ์ที่ไม่สงบสักที ได้แต่หวังรัฐบาลใหม่ ซึ่งไม่ง่ายอย่างคิดหรอก...

  สุดท้ายนี้ ในวาระขึ้นปีใหม่ 2551 ขอให้บุญบารมีแห่งความดีทั้งหลายให้อาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดไปครับ

                                               เคารพรักนับถืออย่างสูง

                                             หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม

เรียน หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม

     ยินดีที่ได้รับข่าวคราวของคุณหมอ เพราะตลอดเวลาก็นึกเป็นห่วงอยู่เสมอ แต่ก็คิดว่ากุศลกรรมที่คุณหมอทำ "ให้" กับคนอื่น ย่อมคุ้มครองหมอได้

     เรื่องความรับผิดในทางอาญาของหมอนั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายคงจะนิ่งดูดายไม่ได้ เพราะนับวันสังคมไทยจะใกล้กับสังคมอเมริกันมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเอง (ซึ่งไม่เหมือนคนอเมริกัน) คนที่ดูแลตนเองได้จึงมักจะคำนึงถึงสิทธิ ของตน แต่การที่คนบางคนคำนึงถึงสิทธิของตนนั้น ย่อมส่งผลกระทบถึงคนอื่น ๆ อีกทั้งสังคม   ในระยะที่ผ่านมา ข้อพิพาทระหว่างหมอกับคนไข้เป็นเพียงทางด้าน "แพ่ง" ซึ่งเป็นการเรียกร้องเงินทองค่าเสียหาย ซึ่งก็ยังแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ได้ แต่บัดนี้ได้คืบคลานมาถึงทาง "อาญา" แล้ว ซึ่งจะยิ่งทำให้คนไข้กับหมอ มีความบาดหมางและขาดความไว้เนื้อเชื่อใจยิ่งขึ้น

      เมื่อวันก่อนผมไปทำฟันซึ่งต้องถอนฟันออก หมอก็จะให้ผมลงชื่อให้ความยินยอมในทำนองจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย แต่บังเอิญหมอเพิ่งนึกขึ้นได้ในขณะกำลังปฏิบัติการอยู่ หมอจึงบอกว่าเมื่อทำเสร็จแล้วขอให้ผมลงชื่อในใบยินยอมให้ด้วย เมื่อทำเสร็จแล้วผมก็ลงชื่อให้  แต่ก็นึกขึ้นมาได้ในขณะนั้นว่า ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด เมื่อหมอให้คนไข้ลงชื่อก่อนจะลงมือรักษา ถ้าคนไข้ไม่ยอมลงลายมือชื่อ หมอก็คงไม่ยอมรักษาให้  เป็นความจำเป็นจำใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย  ผมจึงนึกขึ้นได้ว่า ด้วยเหตุนี้กระมัง เมื่อไม่สามารถฟ้องร้องหมอในทางแพ่งได้ คนไข้จึงมุ่งไปที่การฟ้องในทางอาญา (ซึ่งโดยหลักกฎหมายไม่อาจให้ความยินยอมกันได้ ถึงให้ความยินยอมก็เป็นโมฆะ)  ผมจึงปรารภให้หมอฟังถึงความคิดที่แว่บขึ้นมาดังกล่าว  แล้วเลยบอกให้หมอทราบว่า ทางที่ดีหมอควรจะพูดคุยกันในแพทยสภา เพื่อกำหนดขั้นตอนในการรักษาพยาบาลในกรณีต่าง ๆ ว่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างไร  เพื่อว่าเมื่อหมอแต่ละคนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนนั้นแล้ว ทุกฝ่ายก็จะสามารถยืนยันได้ว่าการกระทำนั้นไม่เป็นประมาท  เพราะคำว่า "โดยประมาท" ในกฎหมายอาญานั้น หมายความว่า "กระทำโดยไม่เจตนา แต่ได้กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์"  เมื่อแพทยสภาสามารถกำหนดเป็นแนวได้ว่า ในภาวะแต่ละภาวะนั้นหมอจักต้องมีความระมัดระวังอย่างไร แล้ว ก็น่าเชื่อว่า ถ้าใครได้ทำตามนั้นแล้ว ศาลก็คงไม่ถือว่าเป็นการ"ประมาท"  ตอนนี้มีหมอที่เป็นเลขาธิการแพทยสภาติดต่อมาขอพบ บังเอิญวันที่เขาขอพบนั้นผมกำลังยุ่งมาก ก็เลยยังไม่ได้พบ ถ้าได้พบก็จะลองบอกแนวความคิดให้เผื่อจะใช้ประโยชน์ได้

     ในวาระที่จะขึ้นปีใหม่ ขออำนวยพรให้คุณหมอและครอบครัวประสบแต่ความสุข สงบ และปลอดภัยตลอดไป  ถ้าหนังสือประจำปีพิมพ์เสร็จเมื่อไร ก็จะส่งมาให้อย่างเคย