http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&action=ask

สวัสดีทางทีมงานเว็บไซต์ของท่านมีชัยครับ....

ตอนนี้ผมมีปัญหาเดือดร้อนใจมากๆไม่รู้จะปรึกษาใครดี....แต่พอได้เข้ามาเห็นเว็บไซต์นี้ผมจึงพอมีความหวังมาบ้างครับ เกริ่นเรื่องก่อนนะครับ

คือผมได้เข้าประมูลบ้านกับทางกรมบังคับคดีช่วงเดือนมีนาคม 2550 ที่บ้านมา

เป็นอาคารพาณิชย์1คูหา 4 ชั้นครึ่งครับ ซึ่งผมทำเรื่องโอนกับทางกรมบังคับคดีแล้ว

ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า แต่เดิมนั้นคูหาที่ผมซื้อนี้เป็นของจำเลยซึ่งจำเลยมีทรัยพ์ที่เป็นอาคารพาณิชย์ติดกัน 2 คูหาซึ่งอยู่ติดกันโดยเปิดเป็นร้านค้า 2 ห้องแต่คูหาทั้งสองนี้เป็นเงินกู้คนละแบงค์ แต่ถูกแบงค์ยึดไป 1 คูหาแล้วผมก็ประมูลคูหานี้ได้ สภาพนั้น 2 คูหามีชั้นล่างที่มีพนังทะลุถึงกันเปิดเป็นร้านค้าส่วนชั้นที่ 2-4 มีพนังกั้นไว้แต่เดิมแยกกัน 2 คูหาแต่จะมีช่องว่างประมาณ 2 เมตรกั้นโดยใช้ประตูสำหรับเดินข้ามระหว่างคูหาในแต่ละชั้น

หลังจากที่ผมประมูลมาได้แล้วโอนทรัพย์จากทางกรมบังคับคดีเรียบร้อยแล้วผมก็เข้าไปเจรจาให้ทางจำเลยได้ย้ายสิ่งของออกจากคูหาที่ผมซื้อ โดยทางจำเลยก็พูดยืดเยื้อดึงเกมจดกระทั้งปาเข้าไป 3 เดือนยังไม่มีวี่แววว่าจะย้ายของออกจากคูหาที่ผมซื้อซึ่งจำเลยก็ยังใช้พื้นที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมจึงทำเรื่องเขียนคำแถลงต่อศาลโดยให้ศาลออกหมายตั้งบังคับให้จำเลยขนย้ายสิ่งของออกจากบริเวณคูหาที่ผมเป็นเจ้าของหลังจากนั้นผ่านไป 1 เดือนจำเลยก็ยังไม่มีวี่แววที่จะย้ายออก ผมจึงเขียนคำแถลงขอให้ศาลได้ออกหมายจับ ข้อหาไม่ทำตามคำสั่งของศาล

เมื่อนำจำเลยส่งมอบที่ศาลแล้วศาลท่านได้มีคำสั่งให้จำเลยขนย้ายของพร้อมบริวารภายในเวลา 10 วันนับจากวันนี้เมื่อครบเวลา 10 วันและให้ผมเข้าไปตรวจสภาพทรัพย์โดยสภาพทรัพย์ที่เห็นต่างจากวันที่ผมได้เข้ามาสำรวจ

1)ชั้น 1 ได้มีการถอดประตูม้วนซึ่งอยู่ด้านหลังของตัวบ้านออกไปซึ่งผมไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้แต่มีพยานบุคคลคือช่างก่อสร้างที่เข้าไปประเมินราคาต่อเติม

2)ชั้น 2 ถูกทุบถอดเอาวงกบ ประตู และ หน้าต่างซึ่งเหล็กดัดก็ถูกถอดออกไปซึ่งผมได้ถ่ายภาพสภาพก่อนที่เข้ามาตรวจทรัพย์เอาไว้แล้วโดยเตรียม 2 ภาพเอาไว้เปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่าง

พอถึงวันแถลงกับศาล

ศาลท่านได้ถามผมว่าจำเลยยอมขนย้ายออกไปให้หรือยังผมบอกว่าขนย้ายออกให้แล้วแต่จำเลยทำความเสียหายให้แก่ทรัพย์ศาลท่านได้บอกว่านั้นเป็นอีกเรื่องซึ่งตอนนี้ศาลแค่มีหน้าที่ออกคำสั่งให้จำเลยออกเท่านั้น

เท่านั้นยังไม่พอครับ พอจะให้ช่างของผมเข้าไปก่อผนังกั้นระหว่างคูหาทางจำเลยไม่ยินยอมโดยทางจำเลยบอกว่าจะเข้ามากั้นโดยใช้แนวผนังเดิมไม่ได้ถ้ากั้นจะฟ้องให้ศาลสั่งทุบทิ้งโดย

จะต้องให้ทางผมก่อผนังในส่วนเป็นเส้นแบ่งเขตของผมเป็นตนไป(ซึ่งผมไม่เข้าใจในเมื่อทางจำเลยได้ทุบเอาวงกบประตูที่กั้นระหว่างคูหาออกไปแล้วผมจะมาก่อปิดซึ่งจะก่อตามแนวผนังเดิมทำไมถึงไม่ได้ปกติผนังกันระหว่างคูหาจะเรียบๆใช่ไหมครับนี่จะให้ผมก่อผนังยื่นออกมาเป็นสันผนังที่พิการ)

และปัญหาเรื่องของชั้นที่ 1 ซึ่งผมจะต้องก่อผนังขึ้นใหม่เพื่อกั้นระหว่างคูหาจำเลยไม่ยอมให้ความสะดวกแก่ผมโดยวางชั้นวางของอยู่ในเส้นแบ่งระหว่างเสาพอดี (ผมจึงไม่สามารถก่อผนังขึ้นได้)

ปัญหาสุดท้ายคือหลังคาโรงรถหน้าบ้านซึ่งมีโครงสร้างเดิมเอาไว้แต่ทางจำเลยสร้างเอาไว้นานมาแล้วก่อนที่จะถูกแบงค์ยึดซึ่งมีแผ่นป้ายอันใหญ่ติดอยู่ด้านหน้าหลังของทั้ง 2 คูหา

คำถามครับ

ข้อที่ 1.ผมจะเอาเรื่องจำเลยในเรื่องของการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง (อาทิการถอดวงกบ ประตูหน้าต่าง ประตูม้วน) ได้หรือไม่เพราะรื้อถอนในช่วงศาลสั่งให้จำเลยขนย้ายภายใน 10วัน

ข้อที่ 2.ผมจะกั้นชั้น 2 - 4 โดยกั้นตามแนวของผนังเดิมได้หรือไม่ครับ

ข้อที่ 3.ถ้าผมจะกั้นในชั้นที่ 1 ผมสามารถกั้นโดยใช้แนวเสาเดิมที่อยู่ระหว่างกลางของ ข้อที่ 2 คูหาคนละครึ่งได้หรือไม่ครับถ้าไม่ได้ผมต้องทำอย่างไร

ข้อที่ 4 กรรมสิทธิ์เรื่องหลังคาโรงจอดรถหน้าบ้านผมสามารถถอดป้ายโฆษณาของจำเลยออกได้หรือไม่แล้วกรรมสิทธิ์หลังคาในส่วนของฝั่งคูหาของผมผมมีกรรมสิทธิ์แค่ไหน

ขอขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ ...ช่วยตอบผมด้วยนะครับเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครดี ...(ผมเคยปรึกษาทางตำรวจแล้วดูเหมือนว่าเค้าไม่อยากทำคดีแบบนี้ครับผมเลยหมดหนทาง) ผมคิดว่าคำถามของผมน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะซื้อบ้านต่อจากทางกรมบังคับคดี