เซ็นหลังเช็คเป็นพยานต้องรับผิดด้วยหรือไม่
ดิฉันเสียรู้คนจนหมดตัว ต้องขอปรึกษาท่านมีชัย กรุณาให้ความกระจ่างด้วยดังนี้ค่ะ ดิฉันได้ให้คนรู้จักกัน ซึ่งดิฉันเป็นลูกค้าซื้อปุ๋ยและยาเพื่อใช้ในการเกษตรของร้านเขาชื่ออ้อยเป็นประจำ ซึ่งเขาเปิดร้านได้ประมาณ 2เดือนกว่า ต่อมา 1 สิงหาคม 2550 เขาได้ยืมเงินดิฉันจำนวน 376,500โดยจ่ายเป็นเช็คและเขียนสัญญาเงินกู้ซึ่งระบุในสัญญาว่าดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี โดยเขาบอกว่าดอกเบี้ยจะจ่ายเป็นเงินสดเมื่อถึงกำหนดขึ้นเช็คในวันที่ 14 สิงหาคม 2550โดยมีชื่อของสามีเขา(เป็นข้าราชการ)เซ็นด้านหลังเช็คระบุเป็นพยาน ดิฉันให้เขายืมเพราะเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคยกันอยู่จังหวัดเดียวกันและเช็คเป็นคดีอาญาคงไมมีปัญหาอะไรและเพียงระยะเวลาสั้น โดยให้หลานของดิฉันเป็นผู้เขียนสํญญาเงินกู้ แต่ปรากฏว่าหลานดิฉันระบุหมายเลขเช็คที่เขาสั่งจ่ายผิดกลายเป็นหมายเลขบัญชีของดิฉันที่จะให้นำเช็คไปฝาก ดิฉันรับทราบตอนที่ดิฉันนำเช็คไปแจ้งความเพ่อดำเนินคดี เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 เพราะดิฉันเสียเงินไปมากมายจนหมดตัวและทวงถามหลายครังแต่ไม่ได้รับเงินคืนเลยทั้งหมดจำนวน ประมาณล้านบาท ที่เงินมากขึ้นเป็นเพราะดิฉันต้องการเงินที่ให้ยืมคืน แต่เมื่อถึงกำหนดชำระ ก็ไมได้เงินคืนโดยเขาบอกว่าได้ยืมต่อเพื่อใช้ไปชำระหนี้ให้กลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านของเขาที่จับกลุ่มกันกู้เงินจากธนาคารการเกษตรและสหกรณ์เมื่อครบ 1 ปี ทางธนาคารต้องให้สมาชิกนำเงินกู้เดิมไปชำระก่อน จึงปล่อยกู้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมี 30-50 คน จึงขอยืมเพิ่ม อีกเพื่อให้ได้ครบตามจำนวนคน แล้วธนาคารจึงจะปล่อยเงินกู้ให้เกษตรกรกลุ่มเดิมอีกครั้ง ดิฉันจึงให้เขาเพิ่มทั้งเงินของตนเองและเงินของญาติพิ่น้อง คิดว่าจะได้เงินคืนทั้งหมด แต่เมื่อครบกำหนดในสัปดาห์ต่อมาก็ไม่ได้เงินคืน เพราะธนาคารปฏิเสทเช็คทุกใบ เขาก็ขอเปลี่ยนเช็คโดยขอเลื่อนเวลาโดยเปลี่ยนเช็คใหม่อีกหลายใบ แต่ตอนหลังดิฉันไปได้สังเกตดูด้านหลังเช็คเขาเขียนไว้ว่าใช้สำหรับคำประกันเงินกู้เท่าน้นจึงแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเขาไม่ได้ เพราะเขาไปปรึกษาทนายความเพื่อนเขามาแล้ว ตอนนี้ดิฉันเหลือเช็คที่ไม่ได้ขึ้นอีก 2 ใบคือวันที่ 14 และ27 ธันวาคม 2550ซึ่งก็คิดว่าเขาไม่มีเงินจ่ายแน่นอน เพราะตอนนี้ความจริงปรากฎว่า เขาเป็นหนี้คนในหมู่บ้านเขา ซึ่งเขารวมตัวกันร้องเรียนทางสำนักงานด้านกฎหมายไปทำบันทึกยอมความกันโดยเขาขอเวลาท 2 ปี ประมาณ 19 ล้านบาท และเป็นหนี้บุคคลภายนอกอีกประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งที่บ้านเขาก็จำนองหมด แต่สามีรับราชการและยังขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอยู่ โดยร้านที่เขาเปิดในเมืองนั้นปิดแล้ว เช็คที่เจ่ายให้ดิฉันจำนวน 5 ใบดังนี้ฉบับที่1เช็คสั่งจ่าย วันที่ 14 สิงหาคม 2550 จำนวน 367,500บาทกำลังแจ้งความอยู่แต่หมายเลขเช็คที่เขียนในสัญญากู้เงินระบุผิดกลายเป็นหมายเลขบัญชีของตนเอง ฉบับที่2เช็คที่ขึ้นเงินแล้วและธนาคารปฏิเสทการจ่ายเงินเพราะเงินไม่พอจ่าย จำนวน 90,000 บาทสั่งจ่ายวันที่ 31 ตุลาคม 2550 ฉบับที่ 3สั่งจ่ายวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550จำนวน 114,000บาท ฉบับที่4จำนวน 200,000บาท สั่งจ่ายวันที่ 11 ธันวาคม 2550 และฉบับที่5 จำนวน 300,000 บาท สังจ่ายวันที่ 27 ธันวาคม2550 ดิฉันเรียนถามท่านเพื่อขอความกระจ่างดังนี้
1.เช็คใบที่1 จะดำเนินคดีอาญาเขาได้หรือไม่เพราะสัญญาเงินกู้ระบุเลขที่เช็คผิด กลายเป็นเลขบัญชีที่ดิฉันจะนำเช็คไปขึ้นเพราะดิฉันเคยบอกหมายเลขบัญชีให้เขาทราบเขาจึงบอกให้หลานดิฉันเขียนผิด ซึ่งดิฉันก็ไม่ไดสังเกตตั้งแต่แรกและคาดไม่ถึง
2.เช็คฉบับที่2-5 เขาเขียนระบุด้านหลังว่าใช้คำประกันเงินกู้เท่านั้นแจ้งความดำเนินคดีอาญาไม่ได้ใช่หรือไม่
3.เช็คทุกใบมีสามีเขาเซ็นชื่อเป็นพยานด้านหลังจะให้เขารับผิดชอบร่วมกันได้หรือไม่ เพราะตอนนี้สามีเขาได้อย่ากันตามกฎหมายแล้ว แต่เขายังอยู่บ้านเดียวกัน และทราบว่าสามีมีเงินในบํญชีหลายล้าน
4. คนที่เขาเสียรู้หลายๆคนจะรวมตัวกันแจ้งความข้อหาฉ้อโกงประชาชนจะได้หรือไม่ |