สวัสดีค่ะ ดิฉันมีปัญหาจะปรึกษาดังนี้

 

ดิฉันไม่ได้แต่งงานมีลูกชายหนึ่งคนเมื่อตอนอายุ 17 ตอนนี้ลูกชายอายุ 9 ขวบแล้ว และอยู่กับพ่อและย่ามาตลอด ในช่วง 7 ปีแรกดิฉันไม่ได้เจอลูกเลย เพราะมีเหตุให้ดิฉันไม่อยากที่จะเจอครอบครัวนี้ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนดิฉันกลับไปพวกเค้าก็ย้ายออกไปเสียแล้ว จึงไม่รู้จะไปตามที่ไหน พอมาปีหลังๆ ถึงสืบทราบที่อยู่และได้เจอบ้างเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่เจอฝ่ายนั้นเค้าก็เรียกร้องเอาแต่เงิน ดิฉันให้เงินก้อนไปครั้งแรกเป็นแสนก็ไม่เหลือทั้งๆที่ตั้งใจเอามาให้ลูก ทุกครั้งที่เจอก็ต้องมีย่ามาด้วยตลอดไม่เคยปล่อยให้ดิฉันอยู่กับลูกตามลำพังเลย พอดิฉันแต่งงานใหม่มาอยู่ต่างประเทศ(มาได้1.8ปี) ก็ยังคงส่งเสียเค้าอยู่ทุกเดือนๆละ 5,000 ยังไม่รวมค่าเทอม และจิปาถะอื่นๆอีกมากมาย ปีนี้ดิฉันโอนเงินไปให้พวกเขาแล้ว 90,000 ในช่วงเวลาแค่ 8 เดือน

เมื่อดิฉันกลับไปเมืองไทยก็หวังว่าจะได้อยู่กับลูกบ้างตามลำพัง พวกเค้าก็ไม่ให้มา คือจะมาเจอกับดิฉันต้องมีคนอยู่ด้วยเสมอโดยเฉพาะตัวย่า ดิฉันไม่พอใจแต่ก็พูดอะไรไม่ได้
ล่าสุดบอกว่าจะย้ายโรงเรียนให้เด็กให้เรียนแบบสองภาษาซึ่งดิฉันก็รู้ว่าแพงจึงบอกตกลงไปด้วยวาจา แต่ก็บอกให้เค้าหาข้อมูลค่าใช้จ่ายมาด้วย แต่ที่ได้มาคือราคาโก่งกว่าความเป็นจริงถึง 50,000 มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ ดิฉันจึงบอกพวกเค้าว่าจะหยุดให้เงินแล้ว แต่หลังจากนั้นพวกเค้าก็หาว่าดิฉันทำร้ายเด็ก เด็กต้องหยุดเรียนเพราะดิฉันเพราะพวกเค้าให้เด็กออกจากโรงเรียนไปแล้ว (แต่มารู้ทีหลังว่ายังเรียนอยู่ที่เดิม) แต่ก็ยังบอกว่าจะให้ลูกหยุดเรียน 2 ปี (มีอีเมล์เป็นหลักฐาน) เพราะตัวพ่อมันเพิ่งออกจากงาน พวกบอกว่าลูกเกลียดดิฉัน ดิฉันเสียใจมาก พยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่พวกเค้ากลับใช้เด็กเป็นเครื่องมือรีดไถเงินจากดิฉันโดยใช้ความเป็นแม่ และคำว่าหน้าที่มาอ้าง ตอนนี้แม้แต่คุยโทรศัพท์ดิฉันก็ไม่ได้คุยกับลูกเลย โทรไปก็ถามว่าดิฉันโอนเงินหรือยัง พอบอกว่าไม่โอนหรอก พวกเค้าก็บอกถ้าอยากเจอก็ไปฟ้องเอา (อันนี้อัดเสียงไว้ด้วย) ดิฉันจะทำอย่างไรดี ฟ้องขอปกครองบุตรได้หรือไม่คะ หรือฟ้องข้อหาอะไรได้บ้าง มีสิทธิชนะไหมคะ เค้าจะอ้างได้ไหมว่าเราทอดทิ้งบุตร

 

ขอบคุณค่ะ

มีชัย ฤชุพันธุ์
4 ธันวาคม 2550