น้องชาย มีนิสัยเล่นการพนันฟุตบอล ปัจจุบันพัฒนามาเล่นการพนันชนิดอื่นด้วย จึงเกิดปัญหาลักทรัพย์ในบ้านไปขาย  ปัจจุบันทำงานแล้วแต่ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม นำความลำบากมาสู่ครอบครัวเสมอ 

ล่าสุดขโมยบัตรเครดิตพี่สาวไปใช้ในคาเฟ่แห่งหนึ่ง (ซึ่งเป็นแหล่งรับพนันนานาชนิดด้วย)  ก่อหนี้เป็นเงิน 1แสนกว่าบาท ซึ่งทางคาเฟ่ก็ทราบว่าน้องชายนำบัตรเครดิตคนอื่นมาใช้  แล้วยังไม่หยุดพฤติกรรม มีการยักยอกนำสินค้าของบริษัทไปขายอีก และขโมยของบริษัทเล็กๆน้อยๆไป พ่อแม่กลุ้มใจมากพยายามช่วยเคลียร์ให้ทุกอย่าง  แต่ยังมีการดิ้นรนในลักษณะมิจาทิฐิอีกมาก  คาดว่าจะนำความเดือนร้อนมาให้อีกอย่างมาก เนื่องจากยังไม่รู้สำนักนึกผิดชอบชั่วดี   

ขอความอนุเคราะห์ ท่านอาจารย์ โปรดช่วยแนะนำด้วย

1.กรณีแจ้งต่อบัตรเครดิต ว่าน้องชายเป็นผู้นำบัตรไปใช้ ทางบริษัทบัตรจะแจ้งดำเนินคดีอาญาหรือไม่ แล้วมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร  แล้วจะมีการไล่เบี้ยเอากับเจ้าของบัตรที่ถูกขโมยไปใช้หรือไม่

2. กรณีเป็นคดีอาญายักยอกทรัพย์แล้ว จะถอนแจ้งว่าได้หรือไม่ ต้องมีผู้เกี่ยวข้องฝ่ายไหนบ้าง  และหากมีการตกลงประนีประนอมถอนแจ้งความแล้วภายหลังไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงชำระหนี้หรือมีพฤติการดังกล่าวอีก  จะมีผลอย่างไร

3.ท้ายที่สุด อยากขอคำแนะนำว่าควรปฏิบัติต่อน้องชายคนนี้อย่างไร  เพราะที่ผ่านมาคิดว่าจะกลับตัวได้  แต่การกระทำทั้งหลายกลับเลวร้ายลง

เป็นห่วงพ่อกับแม่มาก ตอนนี้เครียดกันไปทั้งบ้าน

ขอบคุณอาจารย์ค่ำ 

1. ถ้าแจ้งว่าน้องชายนำไปใช้ ก็เท่ากับว่าคุณยินยอม คุณก็ต้องชำระหนี้นั้น แต่ถ้าแจ้งว่าน้องชายลักไป เขาก็ต้องดำเนินคดีอาญา

2. การยักยอกเป็นความผิดต่อส่วนตัว ถอนเมื่อไรก็ได้  แต่กรณีลักบัตรเครดิตไปอาจไม่ใช่การยักยอก อาจเป็นการลักทรัพย์และปลอมลายมือ หรือความผิดเกี่ยวกับบัตรเครดิตซึ่งเป็นความผิดใหม่ก็ได้

3. ความใจอ่อนย่อมเสริมสร้างให้เขาเลวลงยิ่ง ๆ ขึ้น และในที่สุดเขาจะนำความเดือดร้อนที่ไม่มีทางแก้ไขมาสู่ครอบครัวได้