เรื่องการหย่าและค่าเลี้ยงดูบุตร
กราบเรียน อาจารย์มีชัย
ดิฉันมีเรื่องปรึกษาค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวกับพี่เขยแต่งงานกันมา 10 ปี มีลูก 1 คน อายุ 8 ขวบ ซึ่งตอนแรกทั้ง 2 คน ก็ทำงานเย็บผ้า ด้วยกัน แต่เมื่อประมาณ 2 ปี ได้ซื้อรถกระบะมาคันนึง พี่เขยก็ซื้อผ้าไปขายตามตลาดต่าง ๆ ช่วงแรก ๆ ก็มีพี่สาวไปขายด้วย แต่ประมาณ 1 ปี มานี้ พี่เขยไปขายคนเดียวตลอด เนื่องจากขายไม่ค่อยดี พี่สาวจึงมาเย็บผ้าตามเดิม จะได้มีเงินช่วยอีกทาง ซึ่งพี่เขยก็ไม่ค่อยกลับบ้าน อ้างกับพี่สาวว่าเหนื่อยไม่อยากมาค้างที่บ้าน บอกว่าไกลบ้าง ประหยัดค่าน้ำมัน อ้างว่านอนที่ปั๊มน้ำมันกับเพื่อน ๆ ที่ขายด้วยกัน ซึ่งพี่สาวก็ขัดไม่ได้ บอกว่าจะต้องขายหลาย ๆ รอบ รอบเช้า เที่ยง เย็น ประมาณนี้ค่ะ และอาทิตย์นึงก็กลับบ้านมาอาทิตย์ละครั้ง มาเอาผ้าแล้วก็ไป ไม่เคยนอนค้าง สมมุติมา เที่ยงคืน ก็ออกไปตีสอง อ้างว่าต้องไปขายแต่เช้า คนที่บอกว่าค้างปั้มหรือไปนอนที่อื่นอันนี้ไม่รู้ ซึ่งตอนนี้แทบจะไม่กลับมาเลย เค้าอ้างว่าไปค้างที่คอนโดเพื่อน แต่มารู้ทีหลังว่าไปเช่าห้องอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้เค้าก็มีลูกมีสามีแล้ว แต่พี่เขยไม่ยอมรับ ว่ามีผู้หญิงอื่น บอกว่าเป็นแค่เพื่อนกัน โดยอ้างว่าผู้หญิงคนนั้นมีหลานมาด้วย ซึ่งทางพี่สาวไม่มีหลักฐานเป็นภาพถ่าย แต่พี่เขยมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ชอบพูดโทรศัพท์โดยที่ไม่ให้พี่สาวได้ยิน ได้ยินเรียกว่า เค้า กะ ตัวเอง ค่ะ (ซึ่งดิฉันคินว่าถ้าคนอื่นได้ยินคงจะนึกว่าคุยกับแฟน) ชอบโกหกต่าง ๆ นานา มีกรณีน่าสงสัยค่ะ เช่น มาซื้อผ้าไปขายก็มาผู้หญิงคนดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่บ้านที่มาซื้อ อยู่ระแวงเดียว กับที่พี่สาวกับลูกอยู่ ซื้อเสร็จก็กลับกันไป ทำเหมือนผัวเมียกัน กำลังช่วยกันทำมาหากิน แต่ไม่แวะมาหาลูกเมีย มีแต่สร้างหนี้สิน พี่สาวก็ไม่เคยเห็นหรือได้จับเงินสักบาท มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งบ้านคนที่เค้าขายผ้าเค้ารู้จักผู้หญิงคนนี้และก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนใหม่ของพี่เขย แต่ไม่เคยบอกหรือเล่าให้พี่สาวฟัง ทางพี่สาวก็เย็บผ้าอยู่บ้าน พี่สาวต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเช่าห้องประมาณ 4 พันบาทต่อเดือน และค่าเล่าเรียนลูก ทุกอย่าง ซึ่งพี่เขยไม่เคยให้ความช่วยเหลือ ส่วนพี่เขยก็จะต้องหาเงินมาผ่อนรถ เดือนละประมาณ 9500 บาท พี่เขยบอกกับพี่สาวว่าขายไม่ค่อยได้ (แต่จริง ๆ แล้วพี่สาวก็ไม่รู้ว่าโกหกหรือเปล่า) ก็ต้องไปรูดบัตรอิออนเป็นหนี้เป็นสิน ซึ่งพี่สาวอีกนะแหละที่ต้องผ่อนบัตรอิออน ผ่อนขั้นต่ำทุกเดือน เพราะมีมีเงิน แต่พี่สาวก็บอกว่าถ้าขายไม่ดีก็กลับมาเย็บผ้าเหมือนเถอะ อย่างน้อยก็ออกแต่แรงไม่ต้องลงทุนอะไร เค้าก็กลับไม่ยอมมา เค้าสนุกกับการขายผ้า สนุกกับการอยู่นอกบ้าน (หรือกับผู้หญิงคนนั้น) ทั้ง ๆ ที่บอกว่าขายไม่ค่อยได้ แต่ยังดื้อไปขาย แต่พี่สาวไม่เคยได้จับเงินที่ได้จากการขายผ้าเลยสักบาท แถมมารู้ว่ามีหนี้สินค่าผ้ามาอีก ตอนที่พี่เขยไปเอาผ้าก็ไม่เคยบอกพี่สาว คือ จริงๆ เหมือนไม่มีลูกกับเมียค่ะ ตอนขายได้เงินไม่เคยถือมือ แต่พอมีหนี้สินก็มาบอก ค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีหนี้บัตรอิออนประมาณ 5 หมื่น ค่าผ้าที่ไปเอามายังไม่ได้จ่ายตังอีก 3 หมืน รวมหนี้ที่พี่เขยก่อมาตอนนี้ ประมาณ 8 หมื่น
ตอนนี้พี่สาวเค้าทนไม่ไหวแล้ว กับพฤติกรรมต่าง ๆ ของพี่เขย จะหย่ากันแต่ยังตกลงเรื่องรถกันไม่ได้ เนื่องจากพี่เขยต้องการเอารถ แต่พี่สาวไม่ให้ เพราะ รถ เป็นสินสมรส พี่เขยก็ยื้อเวลา ไม่อยากหย่า เนื่องจากกลัวตัวเองไม่ได้รถไป ไม่เคยคิดถึงลูกกับเมีย คิดถึงแต่ รถ อย่างเดียว ตอนนี้ก็ไปขายผ้าไม่ยอมกลับมาพูดคุยกันให้เสร็จ เมื่อวานวันที่ 18 พ.ย. เพิ่งโทรมาบอกพี่สาวว่า เอาผ้ามาอีกแล้ว 2 หมื่น พี่สาวก็บอกว่าไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ส่วนเรื่องหย่า คุยกันอยู่ค่ะว่า
1. ให้พี่เขยเอาเงินมาให้ 200000บาท (เป็นส่วนเงินดาวน์+เงินที่ผ่อน แล้วหาร 2 ค่ะ) แล้วให้รถพี่เขยไป และให้หนี้สินทั้งหมดไปด้วย เพราะหนี้สินที่เกิดขึ้น เกิดจากพี่เขยทั้งนั้น หรือ
2. ถ้าไม่สามารถหาเงินมาได้ ก็ขายรถ ให้ไฟแนนซ์ แล้วเงินเหลือเท่าไหร่มาใช้หนี้ทั้งหมด เหลือเท่าไหร่ หาร 2 ถ้าไม่พอให้พี่เขยรับผิดชอบ เริ่มต้นจากศูนย์ กันใหม่
3.ส่วน ลูกจะอยู่กับพี่สาว ซึ่งพี่เขยต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร เดือนละ 3000 บาท ถ้าพี่เขยไม่ตกลง มีข้อกฎหมายบังคับ เกี่ยวกับการ ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตร ไหมค่ะ
4.ถ้าทั้งหมดพี่เขยไม่ยอมเลยสักอย่าง พอจะมีวิธีไหนบ้างค่ะ จะสามารถฟ้องหย่าได้ไหมค่ะ
ปล.ไม่มีหลักฐาน เป็นภาพถ่าย และพี่เขยไม่ยอมรับสักข้อกล่าวหา แต่พฤติกรรมบ่งบอก ว่านอกใจ และไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
เดือนที่ผ่านมาพี่เขยเค้าก็บอกพี่สาวว่า เค้ายังไม่มีเงินผ่อนรถเลย ทั้ง ๆ ที่ไปขายผ้าปกติ แทบไม่ได้กลับบ้านเลย ไปซึ้อผ้าก็ไม่บอกพี่สาว คือทุกอย่างที่ทำมา ทั้งหนี้ ทั้งเงินที่ขายได้ พี่สาวไม่เคยเห็น แต่ที่น่าสังเกตุ คือ รถของผู้หญิงคนนั้น ผ่อนหมดเดือนนี้พอดี จะเป็นไปได้หรือเปล่าว่าจะเอาเงินไปให้ผู้หญิงคนนั้นผ่อน ทุก ๆ เดือน แต่ทางบ้าน เงินให้ลูกเมียสักบาทยังไม่เห็น
ทั้งหมดนี้ พอจะทำยังไงได้บ้างค่ะ อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ พี่สาวกำลังกลุ้ม สงสาร พี่สาว และก็หลาน
ใจจริง หนูว่า ถ้าพี่เขยทำถึงขนาดนี้ ไม่สมควรจะได้ส่วนแบ่งจากรถเลยด้วยซ้ำ แต่หนี้สิน เค้าสมควรจะรับไป เพราะเกิดจากการก่อหนี้ของเค้าทั้งนั้น แต่ในทางกฎหมาย จะทำยังไงได้บ้างค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ |