สามีเจ้าชู้มาก
คบกันมา 12 ปี (มีความสัมพันธ์กันแล้วแต่ไม่ได้อยู่ร่วมกัน) แต่งงานตามประเพณีเมื่อ ส.ค.2548 จดทะเบียนสมรสเมื่อ ธ.ค.2549
เมื่อ พ.ย.47 ซื้อรถยนต์ด้วยกัน โดยดิฉันเป็นคนออกเงินดาวน์ และได้ช่วยกันส่งไฟแนนซ์ ชื่อผู้ครอบครองเป็นชื่อสามี (หลังแต่งงาน เค้าไม่ได้ช่วยส่ง ให้แต่ค่าใช้จ่ายในบ้าน ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง)
ต้นปี 2548 ทราบว่าไปมีความสัมพันธ์กับนักศึกษาปวส.(บรรลุนิติฯแล้ว) จึงไปโอนชื่อผู้ครอบครองรถยนต์เป็นดิฉัน เพราะไม่ไว้ใจสามีแล้ว เนื่องจากดิฉันเองเคยไว้ใจ โดยให้เขาเป็นผู้ครอบครองรถแต่เขามีพฤติกรรมไม่ดี
ต่อมายังไม่เข็ดอีก ร่วมกันซื้อบ้านโดยทำสัญญากู้ร่วมกันกับ ธอส.เมื่อ ส.ค.2548 หลังจากแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมา สามีพยายามปกปิดว่ายังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น จนกระทั่ง พ.ย.2549 บอกว่าเลิกติดต่อกับหญิงคนนั้นแล้ว เดือน ธ.ค.2549 ดิฉันจึงจดทะเบียนสมรสด้วย ระหว่างนี้สามีคบกับหญิงอีกคนหนึ่ง กระทั่งเดือน ส.ค.2550 ทราบว่าผู้หญิงคนใหม่ท้อง ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท้องกับสามีหรือไม่ เพราะอยู่คนละจังหวัด เขามาพบกันเมื่อเดือน มิ.ย.และมีความสัมพันธ์กัน และยังทราบอีกว่าหญิงคนเดิมก็กลับมาติดต่อกันใหม่อีก
เมื่อเดือน เม.ย.2550 สามีได้ขายรถยนต์(อีกคันไม่ใช่คันที่ดิฉันออกเงินดาวน์ แต่เป็นรถที่ดิฉันเคยกู้เงินสหกรณ์มาช่วยซื้อ แต่สามีก็คืนเงินจำนวนนั้นให้แล้ว แต่ไม่เคยช่วยเหลือเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกับสหกรณ์) นำเงินที่ได้ไปซื้อรถยนต์ใหม่อีกคัน
ดิฉันมีหลักฐานเรื่องเค้าพาหญิงคนใหม่ไปฝากครรภ์ และมีหลักฐานการโอนเงินไปให้ผู้หญิงคนเดิมในบัญชีธนาคารของน้องชายผู้หญิงคนเดิม และการโอนเงินไปให้หญิงคนที่ท้อง ซึ่งเขาบอกว่าเขาโอนไปให้หญิงคนท้องจำนวนหนึ่งแต่ปรากฎว่ามากกว่าจำนวนที่บอก
ดิฉันกลับมาอยู่บ้านแม่ เค้าพยายามโทรมาหา และมาที่บ้าน 1 ครั้ง แต่ไม่พบกับดิฉัน
ดิฉันกำลังตัดสินใจที่แยกทางกับสามี เพราะทนพฤติกรรมต่างๆ ไม่ไหว เนื่องจากเคยพูดคุยตกลงกันหลายเรื่องแล้ว ก็คุยเข้าใจกันดี แต่เขายังมีพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ได้ตกลงกัน จึงมีเรื่องที่จะเรียนถามคุณมีชัย ดังนี้ค่ะ
1. รถยนต์คันที่ดิฉันออกเงินดาวน์และช่วยกันผ่อนส่ง ตอนนี้ดิฉันได้กู้เงินสหกรณ์อีกครั้ง และขอยืมเงินแม่ไปจ่ายปิดบัญชีแล้ว เป็นสินส่วนตัวของดิฉันใช่หรือไม่
2. รถยนต์คันใหม่ที่ซื้อ ได้จากการที่สามีขายรถยนต์คันเก่า และเป็นหนี้ไฟแนนซ์อีกแสนกว่าบาท เป็นสินสมรสหรือไม่ และหนี้สินที่มีอีกแสนกว่า ดิฉันต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่
3. หนี้สินสหกรณ์ที่ดิฉันกู้มาเพื่อใช้จ่ายในบ้าน และนำมาจ่ายกับไฟแนนซ์เป็นหนี้สินที่ดิฉันต้องรับผิดชอบเองทั้งหมดใช่หรือไม่ สามีไม่เกี่ยวข้องด้วยใช่หรือไม่ (หนี้สินนั้นเป็นทั้งหนี้สินก่อนจดทะเบียนสมรส และเป็นหนี้สินที่เกิดขึ้นหลังจากจดทะเบียนสมรส)
4. บ้านที่กู้ร่วมกันคนละครึ่ง ต่างฝ่ายให้ธนาคารหักกับต้นสังกัด ถ้าสามียอมหย่ากับดิฉัน ดิฉันต้องการบ้าน โดยให้สามีส่งค่าบ้านให้เหมือนเดิมได้หรือไม่ (ถ้าสามีไม่ยอมหย่า ดิฉันต้องฟ้องร้อง) และถ้าสามียอมหย่ากับดิฉันแล้ว วันข้างหน้า สามีไม่ยอมส่งค่าบ้านในส่วนของเขาให้กับดิฉัน ดิฉันจะทำอย่างไร
ขอบพระคุณค่ะ
ค.คนโง่ ที่พยายามอดทน
|