ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    024466 สามีเจ้าชู้มากคนโง่7 พฤศจิกายน 2550

    คำถาม
    สามีเจ้าชู้มาก

    คบกันมา 12 ปี (มีความสัมพันธ์กันแล้วแต่ไม่ได้อยู่ร่วมกัน) แต่งงานตามประเพณีเมื่อ ส.ค.2548 จดทะเบียนสมรสเมื่อ ธ.ค.2549

    เมื่อ พ.ย.47 ซื้อรถยนต์ด้วยกัน โดยดิฉันเป็นคนออกเงินดาวน์ และได้ช่วยกันส่งไฟแนนซ์ ชื่อผู้ครอบครองเป็นชื่อสามี (หลังแต่งงาน เค้าไม่ได้ช่วยส่ง ให้แต่ค่าใช้จ่ายในบ้าน ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง) 

    ต้นปี 2548 ทราบว่าไปมีความสัมพันธ์กับนักศึกษาปวส.(บรรลุนิติฯแล้ว) จึงไปโอนชื่อผู้ครอบครองรถยนต์เป็นดิฉัน เพราะไม่ไว้ใจสามีแล้ว เนื่องจากดิฉันเองเคยไว้ใจ โดยให้เขาเป็นผู้ครอบครองรถแต่เขามีพฤติกรรมไม่ดี

    ต่อมายังไม่เข็ดอีก ร่วมกันซื้อบ้านโดยทำสัญญากู้ร่วมกันกับ ธอส.เมื่อ ส.ค.2548 หลังจากแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมา สามีพยายามปกปิดว่ายังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น จนกระทั่ง พ.ย.2549 บอกว่าเลิกติดต่อกับหญิงคนนั้นแล้ว เดือน ธ.ค.2549 ดิฉันจึงจดทะเบียนสมรสด้วย ระหว่างนี้สามีคบกับหญิงอีกคนหนึ่ง กระทั่งเดือน ส.ค.2550 ทราบว่าผู้หญิงคนใหม่ท้อง ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท้องกับสามีหรือไม่ เพราะอยู่คนละจังหวัด เขามาพบกันเมื่อเดือน มิ.ย.และมีความสัมพันธ์กัน และยังทราบอีกว่าหญิงคนเดิมก็กลับมาติดต่อกันใหม่อีก

    เมื่อเดือน เม.ย.2550 สามีได้ขายรถยนต์(อีกคันไม่ใช่คันที่ดิฉันออกเงินดาวน์ แต่เป็นรถที่ดิฉันเคยกู้เงินสหกรณ์มาช่วยซื้อ แต่สามีก็คืนเงินจำนวนนั้นให้แล้ว แต่ไม่เคยช่วยเหลือเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกับสหกรณ์) นำเงินที่ได้ไปซื้อรถยนต์ใหม่อีกคัน

    ดิฉันมีหลักฐานเรื่องเค้าพาหญิงคนใหม่ไปฝากครรภ์ และมีหลักฐานการโอนเงินไปให้ผู้หญิงคนเดิมในบัญชีธนาคารของน้องชายผู้หญิงคนเดิม และการโอนเงินไปให้หญิงคนที่ท้อง ซึ่งเขาบอกว่าเขาโอนไปให้หญิงคนท้องจำนวนหนึ่งแต่ปรากฎว่ามากกว่าจำนวนที่บอก

    ดิฉันกลับมาอยู่บ้านแม่ เค้าพยายามโทรมาหา และมาที่บ้าน 1 ครั้ง แต่ไม่พบกับดิฉัน

    ดิฉันกำลังตัดสินใจที่แยกทางกับสามี เพราะทนพฤติกรรมต่างๆ ไม่ไหว เนื่องจากเคยพูดคุยตกลงกันหลายเรื่องแล้ว ก็คุยเข้าใจกันดี แต่เขายังมีพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ได้ตกลงกัน จึงมีเรื่องที่จะเรียนถามคุณมีชัย ดังนี้ค่ะ

    1. รถยนต์คันที่ดิฉันออกเงินดาวน์และช่วยกันผ่อนส่ง ตอนนี้ดิฉันได้กู้เงินสหกรณ์อีกครั้ง และขอยืมเงินแม่ไปจ่ายปิดบัญชีแล้ว เป็นสินส่วนตัวของดิฉันใช่หรือไม่

    2. รถยนต์คันใหม่ที่ซื้อ ได้จากการที่สามีขายรถยนต์คันเก่า และเป็นหนี้ไฟแนนซ์อีกแสนกว่าบาท เป็นสินสมรสหรือไม่ และหนี้สินที่มีอีกแสนกว่า ดิฉันต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่

    3. หนี้สินสหกรณ์ที่ดิฉันกู้มาเพื่อใช้จ่ายในบ้าน และนำมาจ่ายกับไฟแนนซ์เป็นหนี้สินที่ดิฉันต้องรับผิดชอบเองทั้งหมดใช่หรือไม่ สามีไม่เกี่ยวข้องด้วยใช่หรือไม่ (หนี้สินนั้นเป็นทั้งหนี้สินก่อนจดทะเบียนสมรส และเป็นหนี้สินที่เกิดขึ้นหลังจากจดทะเบียนสมรส)

    4. บ้านที่กู้ร่วมกันคนละครึ่ง ต่างฝ่ายให้ธนาคารหักกับต้นสังกัด ถ้าสามียอมหย่ากับดิฉัน ดิฉันต้องการบ้าน โดยให้สามีส่งค่าบ้านให้เหมือนเดิมได้หรือไม่ (ถ้าสามีไม่ยอมหย่า ดิฉันต้องฟ้องร้อง) และถ้าสามียอมหย่ากับดิฉันแล้ว  วันข้างหน้า สามีไม่ยอมส่งค่าบ้านในส่วนของเขาให้กับดิฉัน ดิฉันจะทำอย่างไร

                                                           ขอบพระคุณค่ะ

                                                    ค.คนโง่ ที่พยายามอดทน

     

    คำตอบ

    1-2 รถยนต์ทั้งสองคัน เป็นสินสมรส

    3 หนี้ที่มีอยู่ก่อนเป็นหนี้ส่วนตัว ส่วนหนี้ที่เกิดระหว่างสมรสก็เป็นหนี้ที่ต้องใช้หนี้ด้วยกัน

    4. ทั้งหมดที่ถามมาน่ะ ถ้าในเวลาหย่าก็ตกลงกันเสียให้เรียบร้อย เพียงแต่ว่าการตกลงกันนั้นเมื่อถึงเวลาเขาไม่จ่ายก็ต้องคงต้องฟ้องร้องกัน เว้นแต่เป็นกรณีที่หย่ากันโดยการฟ้องศาล ในกรณีนั้นก็ต้องไปบังคับคดี


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    7 พฤศจิกายน 2550