เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ

ดิฉันกับสามีจดทะเบียนสมรส และมีบุตรด้วยกัน ๑ คน  ได้แยกกันอยู่เป็นเวลา ๘ ปี  แต่เป็นการแยกกันที่ยังมีความสัมพันธ์อันดี ไปมาหาสู่ ทำงานด้วยกัน และในยามที่สามีเดือดร้อนดิฉันให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังมาโดยตลอดด้วยความรัก และปรารถนาที่จะกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ 

ในหลายครั้งที่ดิฉันช่วยทั้งแรงกาย แรงใจ และกำลังทรัพย์เท่าที่มี(บางครั้งก็ช่วยจนหมดตัว) เพราะต้องการช่วยสร้างฐานะกัน     และดิฉันคิดว่าเขาจะนำเงินนั้นไปเลี้ยงดูบิดา-มารดา  แม้ว่าทางครอบครัวของเขาจะไม่ชอบดิฉันก็ตาม ดิฉันก็ไม่เคยคิดร้าย

ดิฉันได้พูดคุยให้สามีกลับมาร่วมสร้างครอบครัวมาตลอด ๘ ปี สามีก็บ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าไม่ต้องการจะกลับเข้ามาอยู่รวมกับครอบครัวใหญ่ของดิฉัน  ดิฉันจึงรอให้สามารถช่วยกันทำงานเพื่อซื้อบ้านเป็นของตนเองแล้วค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

มาเมื่อต้นปี ๕๐ ดิฉันช่วยให้เขาได้บวชเพื่อแก้ไขปัญหาบางประการ  ก่อนที่จะไปเข้ากรรมฐานเพื่อขอบวช  เขาได้สารภาพกับดิฉันว่า "เขาได้แอบไปมีหญิงอื่น และมีบุตรด้วยกัน ๒ คนแล้ว  ตอนนี้กำลังลำบากมาก  ทั้งเขาและหญิงนั้นเสียใจ"    ดิฉันนึกสมเพชและได้ช่วยเหลือเงินบางส่วนให้เขาเพื่อที่เขาจะได้บวชเพื่อได้สติปัญญากลับมาแก้ไขปัญหาในวันข้างหน้า  

แต่หลังจากสึกแล้วเขาไม่ได้ทำตามที่ให้สัญญาไว้ว่าเขาจะแบ่งเวลากลับมาอยู่กับดิฉันและลูก  และยังต้องกลับมาขอให้ดิฉันช่วยเหลือเรื่องเงินมาตลอด  สร้างความเจ็บช้ำใจแก่ดิฉันเป็นอย่างมาก

ก่อนที่เราจะแยกทางกันเมื่อ ๘ ปีก่อน ดิฉันเคยบอกเขาไว้ว่า.....ขอให้เขาไปคิดให้ดีว่าทำอะไรไว้ ทบทวนแก้ไข และถ้าเขาหรือดิฉัน ใครตั้งตัวได้ก็จะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก    และถ้าเขาพบหญิงที่ต้องการจะแต่งงานด้วยใหม่ขอให้บอกกับดิฉันก่อน เพื่อที่จะหย่าให้  อย่าแอบไปมี เพราะผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม

ทั้งหมดเขาและหญิงคนนั้นผิดบาป ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม  หลอกลวงดิฉัน  ที่ผ่านมาดิฉันเป็นฝ่ายเลี้ยงดูบุตรเอง โดยเขาไม่สามารถช่วยเหลือด้านเงินได้ เพราะหญิงคนนั้นไม่ยอมทำงาน (เขาอยู่ด้วยกันมาประมาณ ๔-๖ ปีค่ะ)

ดิฉันจะทำอย่างไรดี กับคนใจร้ายทั้งสอง

๑.ดิฉันสามารถฟ้องสามี และหญิงคนนั้นได้หรือไม่? อย่างไร?  ดิฉันไม่เคยเห็นหน้า และไม่ทราบชื่อของหญิงคนนั้นค่ะ

๒.ถ้าหากหย่า ดิฉันจะทำเอกสารแนบท้ายหนังสือโดยป้องกันไม่ให้สามีและหญิงอื่นมาหาประโยชน์จากบุตรของดิฉัน  โดยอาศัยมารยา และความรักที่ลูกมีกับพ่อเป็นเครื่องมือได้อย่างไรคะ? (เผื่อในอนาคตที่ลูกบรรลุนิติภาวะแล้วด้วยค่ะ)

๓.ดิฉันจะขอสิทธิให้สามีส่งค่าเลี้ยงดูบุตร รวมทั้งชดใช้เงินที่เขาหลอกลวงดิฉันไปได้หรือไม่คะ? โดยที่ดิฉันจะขอมีสิทธิในตัวบุตรตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว... ดิฉันไม่หวังว่าเขาจะมีเงินให้ในปัจจุบัน  แต่หากในอนาคตเขามีเงินดิฉันก็ต้องการคืนพร้อมดอกเบี้ย   (ดิฉันสามารถทำให้เขาเซ็นรับว่าเขายืมเงินไปจริงค่ะ)

สุดท้ายนี้หากท่านอาจารย์มีคำแนะนำที่ดีให้  ดิฉันขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

เรียน inyah

1. ถ้าว่าโดยกฎหมายคุณก็ฟ้องได้ แต่ในทางประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเอง การไปฟ้องก็รังแต่จะสร้างภาระและความทุกข์ใจให้เกิดขึ้น

2. ถ้าหย่าโดยการตกลงก็อาจตกลงให้เด็กอยู่ในความปกครองของคุณได้ หรือถ้าฟ้องหย่า ก็ขอให้คุณเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองได้ แต่เมื่อเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว ก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะถึงตอนนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของลูกที่จะตัดสินใจเอง

3. ในเรื่องค่าเลี้ยงดูนั้น ขอได้ แต่เรื่องให้ชำระหนี้นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ถ้าไม่อยากให้เขามาพัวพัน ก็อย่าไปทำอะไรให้ต้องติดต่อสัมพันธ์กันอีกเลย  เพราะติดต่อกันไปติดต่อกันมาภายหลังการหย่า พอดีพอร้ายเกิดใจอ่อน คุณก็จะกลายเป็นเมียน้อยของเขาได้