เรียนถามดังนี้
ผมมีการตบตีกันกับภรรยา ซึ่งทั้งคู่ก็บาดเจ็บ และทางภรรยาได้โทรให้ญาติมารับลูกของเรา ซึ่งมีอายุเกือบ 1 ปี ไปอยู่ด้วยกันพร้อมกันภรรยา ที่บ้าน ที่พี่น้องและภรรยาซื้อ(ผ่อน) เมื่อปลาย ก.ย.50ซึ่งผมก็ไม่ยินยอมให้พาลูกไป และทางภรรยามีการขู่ต่าง ๆ นา ๆ ว่าจะไปฟ้องหย่า ไปแจ้งความ และถ้าอยากจะได้ลูกก็ไปฟ้องอย่าเอา และหลังจากนั้นสองสามวันเค้าก็ติดต่อกลับมา ว่าจะให้ไปหย่าที่เขตและขอค่าเลี้ยงดูด้วยโดยที่ยังไม่ได้ตกลงหย่าและค่าเลี้ยงดู ภรรยาได้พูดจาดูถูกที่พักว่าจะยืดคืน ซึ่งเป็นสิทธิร้านค้าของอาคารสวัสดิการตำรวจ ซึ่งผมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเซ้งสิทธิต่อ ๆ มา โดยชื่อสิทธิผู้อยู่อาศัยเป็นของพี่เขย และไม่ได้ลงสัญญา เพราะผมเซ้งสิทธิต่อจากพี่สาวของภรรยา โดยทำการโอนเงินเข้าบัญชีของภรรยาก่อนการแต่งงาน ก่อนการจะทะเบียนสมรส ซึ่งยังคงใช้สิทธิที่เป็นชื่อของพี่เขยอยู่และหลังจากที่ผมยังไม่ได้ตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายลูกและเรื่องการหย่า ภรรยาได้ไปปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งสองฝ่าย แต่ใช้ชื่อภรรยาทั้งจำนวน และไม่ได้ทำการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด และมีเพียงผมที่สอบถามกลับไปว่าจะกลับมาหรือไม่ และภรรยาก็ยืนกรานจะให้ไปหย่า และตกลงเรื่องค่าเลี้ยงดูเหตุจดทะเบียนสมรส เพื่อสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลบุตรและครอบครัวได้จากสวัสดิการของที่ทำงานของผม และหลังคลอดบุตรมาผมมีผู้หญิงมาเกี่ยวข้อง และก็เลิกลากันไปในเวลาอันสั้น โดยที่ภรรยาก็ยอมกลับมาคืนดีตั้งแต่ต้นปี 50 โดยได้ใช้สิทธิสวัสดิการครอบครัวดังกล่าวต่อเนื่องมาเกี่ยวกับค่ารักษาของบุตรและภรรยา แล้วก็มีเรื่องข้างต้นอีกภรรยาจึงไม่ยอมกลับมาแล้วพร้อมกับลูกด้วยผมเข้าใจว่าปัญหาครอบครัวมันอธิบายหมดก็ไม่ได้ ยืดเยื้อเกินไปรายได้ของทั้งสองคนนำมารวมเป็นก้อนเดียวกัน มีรายได้ประมาณสองหมื่นแปดพันบาท มีเงินเก็บสะสมตั้งแต่ ม.ค.50 - ก.ย.50 เดือนละ 5,000 บาท มีหนี้ที่เกิดขึ้นจากการใช้บัตรเครดิตในชื่อของภรรยาประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งรายได้ของภรรยานั้นมิได้มีหลักฐาน เพราะทางบริษัททำบัญชีสองระบบ เพื่อลดค่าประกันสังคม และไม่แจ้งจำนวนเงินเดือนที่แท้จริง พร้อมกับจ่ายเป็นเงินสด และภรรยายังมีหนี้จำนวน 2 ก้อนคือ ผ่อนบ้าน กับผ่อน กศย.ที่เริ่มขาดส่ง 1 ปีแล้ว จำนวน สี่แสนกว่าบาทจึงอยากจะเรียนถามว่า
1. ภรรยาสามารถฟ้องเอาเหตุที่ผมมี ญ อื่นตั้งแต่ปีที่แล้วได้หรือไม่ ซึ่ง ถึง ณ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเธอ2. อดีตผมเคยมีรายได้จากการสำเนาภาพยนตร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีรายได้เสริมจากจุดนี้แล้ว ณ จุดนี้ภรรยาสามารถฟ้องหย่าผมได้ด้วยหรือไม่ ? เพราะแกได้เคยพูดดูถูกดูแคลนเอาไว้ด้วย3. เงินเก็บจำนวนดังกล่าวนั้น เป็นเงินที่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเงินเก็บที่มาจากการถอนเงินสดจากบัญชีเงินเดือนของผม แล้วนำเงินสดจำนวนเดือนละ 5 พันบาทไปเก็บเข้าบัญชีเงินฝากประจำ 24 เดือนในชื่อภรรยา ผมจะมีสิทธิในเงินจำนวนดังกล่าวหรือไม่ เพราะปัจจุบันภรรยาผมได้ปิดบัญชีเงินเงินฝากดังกล่าวไปแล้ว4. ผมมีสิทธิ/เหตุฟ้องหย่า และสิทธิในการเลี้ยงดูลูกหรือไม่ เพราะเสมือนว่าทางภรรยาจะอ้างว่าอยู่บ้านทางโน้นบ้านใหญ่กว่า ไม่คับแคบ ไม่อึดอัดผมทำงานธนาคารซึ่งสามารถเบิกสวัสดิการด้านการรักษาให้กับครอบครัวได้ ไม่ทราบว่าผมสามารถอ้างเรื่องรายได้ที่มีหลักฐานชัดเจนเทียบกับรายได้ภรรยาที่ไม่มีหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับรายได้ เพื่อได้รับสิทธิเลี้ยดูลูกได้หรือไม่5. พอจะมีวิธีการใด ๆ บ้างไหมที่ผมจะมีสิทธิเลี้ยงดูลูกได้บ้าง และปัจจุบันผมก็ไม่มีผู้หญิงใด ๆ มาเกี่ยวข้อง เพราะภรรยาผมได้เคยโทรไปต่อว่าเพื่อนของผม ที่เป็นผู้หญิง เกือบทุกคนที่มีเบอร์โทรในมือถือของผม แม้กระทั่งเบอร์ที่โทรมาติดต่อสอบถามเรื่องธุรกิจบางครั้งยังจะโดนโทรกลับไปเช็คหมด ทำให้ผมแทบจะไม่มีเพื่อนเลย
ขอบคุณครับ
1. ถ้ามีหลักฐานว่าคุณไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่น ก็เป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้
2. ไม่ใช่เหตุที่จะฟ้องหย่าได้
3. เงินนั้นเป็นสินสมรส เป็นส่วนของคุณครึ่งหนึ่ง (ถ้าหย่ากัน)
4.-5. ตามข้อเท็จจริงที่เล่ามายังไม่เพียงพอที่จะเป็นเหตุให้คุณฟ้องหย่าเขาได้ แต่ถ้าเขาฟ้องหย่าคุณ(และเหตุหย่านั้นเป็นความผิดของคุณ) คุณก็มีสิทธิขออยู่กับลูกเป็นครั้งคราวได้