เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ

ดิฉันอายุ 59 สามีอายุ 65 ปลายปี 49 สามีพบรักกับเด็กอายุเท่าลูก อายุ 33 ขอให้ดิฉันแยกห้องนอน แต่เมียน้อยอยู่บ้านเขาเอง ตอนแรก ๆ เรายังมีการคุยกัน เวลา 1 ปี ผ่านไป  ภายใน 1 ปีนี้เอง ทุกอย่างในบ้านเปลี่ยนไปหมด สามี เอาเงินให้เมียน้อย ซึ่งดิฉันรู้ว่ามีทะเบียนสมรสแล้ว ปี 47 สามีบอกเมียน้อยว่าถ้าเมียน้อยมีพันทะอยู่ก็ไม่คบกัน แล้วเมียน้อยก็ไปหย่ากับสามีเขา ปี 49  ช่วยเมียน้อยถ่ายถอนบ้านที่ผ่อนอยู่ เป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นาน ก็ขอให้เมียน้อยเข้ามาอยู่บ้านที่ฉันและลูก ๆ อยู่  ดิฉันไม่ยอม  ขอให้ต่างคนต่างอยู่ แต่สามีไม่ยอมหยุด รุกอยู่ตลอดเวลา ทำร้ายจิตใจของดิฉันและลูก ๆ ต่าง ๆ นา ๆ พาเมียน้อยไปเที่ยวต่างประเทศ ไปพัทยาพักผ่อน  ไปเที่ยวภูเก็ต  เอารถที่บริษัทฯ ให้เมียน้อยไปใช้ (เรามีการค้าเป็นระบบครอบครัวซึ่งเป็นบริษัท ) ทุกวันต้องการให้ดิฉันหย่ากับเขา เพื่อที่จะไม่ให้เมียน้อยได้ชื่อว่าแย่งผัวชาวบ้าน สามีบอกว่า เมียน้อยเก่ง จบปริญญาโท  ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทต่างประเทศ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง เขาต้องการให้เมียน้อยมาถือหุ้นในบริษัท ของครอบครัว และจะให้เมียน้อย บริหารงานด้วย ทุกวันนี้  เนื่องจากที่พักอาศัย กับ บริษัทของครอบครัว อยู่ที่แห่งเดียวกัน ดิฉันคิดว่า ทนไม่ได้ ขนาดให้คุณมีเมียน้อย แต่คุณยังต้องการหย่า เพื่อเมียน้อย ซึ่งอายุเท่าลูก คำถามที่จะถามอาจารย์ มีอยู่ว่า 

บริษัทของครอบครัวที่เราทำกันอยู่ มี สามี ดิฉัน และ ลูก ๆ ช่วยกันทำมา สัดส่วน ผู้ถือหุ้นของบริษัท สามี มี สามหมื่นหุ้น ส่วนตัวดิฉันและลูก ๆ รวมกันมีสองหมื่นหุ้น  สามีถือหุ้นมากว่า เป็นกรรมการบริษัท และดิฉันก็เป็นกรรมการ การลงนามแทนบริษัทนั้น กรรมการคนใดคนหนึ่งประทับตราบริษัท  สามีสามารถโอนหุ้นของเขาที่ถืออยู่ให้เมียน้อยไหม  หรือว่า  ดิฉันกับสามีจดทะเบียนสมรสปี 2515 แต่จัดตั้งบริษัท ปี 2520 แล้วเราก็ช่วยกันทำมาจนถึงทุกวันนี้ บริษัทที่ทำกันอยู่นี้ ถือว่าเป็นสินสมรสหรือเปล่า

มีลูกพิการอยู่ 1 คนนั่งรถเข็น ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นคนพิการ สามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้ไหม อายุ 31 ปี หลังจากหย่ากัน หรือว่าต้องฟ้องเอา  ใช้เวลาฟ้องร้องนานไหม  ค่าทนายแพงไหม

ดิฉันขอค่าเลี้ยงดูได้ไหม เพราะอายุมากแล้ว ไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้  เพราะหลังจากหย่ากันแล้ว ดิฉันคงต้องย้ายออกจากบ้านที่เราอยู่  สามีต้องการบริษัทให้เมียน้อยบริหาร สินสมรสที่แบ่งมาได้ คงต้องไปซื้อบ้านอยู่ใหม่ ซึ่งก็แพงเหลือเกิน  ต้องทำสถานที่ที่เหมาะกับการใช้รถเข็น ข้อนี้ต้องฟ้องเอา หรือว่าระบุในใบหย่าได้

ตอนไปหย่ากันที่อำเภอ ดิฉันต้องระบุยังไงเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ เพราะว่า สามีบอกว่าเขาไม่มีเงินสด ส่วนที่ดินได้มาก็ไม่ใช่ว่าจะขายได้ง่าย ๆ

หรือถ้าทุกอย่างคุยไม่เข้าใจกัน  ต้องฟ้องหย่าสามี มีเมียน้อย และดิฉันฟ้องเมียน้อยด้วยได้ไหม เพราะรู้ตลอดเวลาสามีมีเมียน้อย  แต่ดิฉันไม่สามารถเก็บหลักฐาน ที่สามีไปกับเมียน้อย  ทุกวันนี้  ดิฉันหุงหาอาหารให้ ซักผ้ารีดผ้าให้ ทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ภรรยา ยกเว้น เขาบอกให้แยกห้องนอน ที่บ้านสามีจะอยู่เฉพาะเวลาทำงาน ส่วนเวลาอื่นไม่ค่อยได้อยู่ นอกจากกลับมานอนเท่านั้น จริงไหมที่สามีบอกว่า ไม่ไปค้างที่อื่นเพราะเป็นห่วงลูกเมีย  หรือกลัวข้อหาละทิ้งหน้าที่  เวลา ฟ้องหย่ากันนั้น ค่าใช่จ่ายมากไหม เช่นค่าทนาย  ค่าศาล และยังต้องใช้เวลานานไหม กว่าจะรู้เรื่องกัน     

จึงเรียนมาขอให้อาจารย์ช่วยแนะนำ

ขอแสดงความเคารพ

เมียหลวง

เรียน เมียหลวง

    ถ้าคุณจดทะเบียนกับสามี การที่มีหญิงอื่นมาแสดงตนเป็นเมียของสามี คุณก็มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงนั้นได้ และถ้าจะหย่าคุณก็มีสิทธิฟ้องหย่าได้ ถ้าสามีเป็นอยากหย่า คุณก็มีสิทธิเรียกค่าเลี้ยงดูทั้งตัวเองและบุตรที่พิการได้ การเรียกค่าเลี้ยงดูอาจเรียกให้จ่ายเป็นรายเดือน หรือจ่ายเป็นก้อน หรืออาจจะให้เขาโอนหุ้นทั้งหมดให้แทนค่าเลี้ยงดูก็ได้