เรื่องบุตรโดนหมายศาลแล้วช่วยด้วยค่ะ
เนื่องมาจากบุตรอายุได้เกือบ 2 ขวบแล้วค่ะ บิดาของเด็กแยกกันอยู่ตั้งแต่เด็กอายุ ได้ 5 เดือน [ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ]
ขณะนี้ทางบิดาของเด็กฟ้องศาลบังคับให้ดิฉันไปให้ความยินยอมให้เขาจดรับรองบุตรค่ะ มีคำถามดังนี้นะค่ะ
1.หมายนำ คำสั่งศาล ไม่มีผู้รับโดยชอบใหเปิดหมายได้ คืออะไรค่ะ เขาสามารถจดทะเบียนรับรองบุตรได้ใช่ไหมค่ะ
2.ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัติย์ ตอนหนึ่งเขียนว่า เพราะฉะนั้น ให้ท่านทำคำให้การแก้คดียื่นต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมายหรือถือว่าได้รับหมายนี้ คืออะไรค่ะ ต้องให้ใครทำให้ค่ะ
3. ดิฉันไม่มีทนายค่ะ ต้องการความช่วยเหลือด่วนมาก ท่านอาจารย์มีแนะนำไหมค่ะ ค่าทนายแพงไหมค่ะ หาที่ไหนค่ะ ที่เก่ง ดี ไม่แพง
4.ดิฉันรู้สึกสะท้อนใจ ที่ลูกเด้กอายุไม่ถึง 2 ขวบ มามีชื่อว่าเป็นจำเลย จากผู้ชายที่เขาพยายามจะฟ้องขอรับรองบุตร ซึ่งน่าจะมีเลศนัย หรือเขาต้องการผลประโยชน์จากเด็กมากกว่า หรือเนื่องด้วยเขามีหนี้สินล้นพ้นตัว [ ดิฉันสามารถ อ้างเรื่องนี้ได้ไหมค่ะ ]
5.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อยู่ที่ไหนค่ะ แล้วสามารถหาทนายได้ที่ศาลไหมค่ะ
6.ข้อหาหรือฐานความผิด ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย นี้คือข้อหาใช่ไหมค่ะ
7.เขาบอกว่าอุปการะเลี้ยงดูดิฉันตั้งแต่ตั้งครรภ์ ถึงคลอด และให้บุตรใช้นามสกุล หลังจากแยกกันอยู่ 1 ปี ยังส่งเสียเลี้ยงดูบุตร พฤติการณ์แสดงออกต่อสาธารณชนเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า บุตรเป็นบุตรของโจทก์ แล้วเขามีความประสงค์ที่จะจดทะเบียนรับรองบุตรผู้เยาว์ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
[ แท้ที่จริงแล้ว ดิฉันอยู่บ้านพ่อ แม่ แล้วก็เป็นครอบครัวของดิฉันในการเลี้ยงดูดิฉันตั้งแต่ตั้งครรภ์ ถึงคลอด และช่วยดิฉันเลี้ยงดูบุตร ตอนฉันท้องเขาเคยบอกว่าจะให้ฉันเอาเด็กออก แต่ดิฉันไม่ยอม และเคยทำร้ายร่างกายดิฉันขณะตั้งท้องด้วย ยังมีแผลเป็นอยู่ ในสมุดบัญชีดิฉันสามารถยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้โอนเงินมาทุกเดือน เดือนหนึ่งไม่กี่พัน แต่หลังจากที่ส่งหมายศาลเขารีบโอนไว้ ส่งสัยจะเก็บหลักฐานไว้ยืนยันว่าส่งเสีย ทั้งทีเด็ก ต้องกินนม กินข้าวทุกเดือนนะค่ะ เงินตรงนั้นฉันไม่ได้ใช้
มีแต่เงินจาก พ่อ แม่ ดิฉันที่ใช้เลี้ยงดูเด็กมาตลอด
8.เขาเคยยื่นคำร้องต่อทางอำเภอ ให้ดิฉันไปเซ็นต์ยินยอมรับรองบุตร ถ้าดิฉันไม่ไปตามกำหนดที่นัด ถือว่าดิฉันยินยอม [ ตอนนั้นดิฉันจึงรีบส่งจดหมายไปที่อำเภอนั้น แล้วมีข้อความว่าไม่ยินยอม ตอนนี้มาเจอ หมายศาลอีก ยังไงดิฉันก็จะสู้เพื่อลูกค่ะ ไม่ยอมให้เขามาหวังผลประโยชน์ต่อเด็กแน่นอนค่ะ ]
9.คำขอท้ายคำฟ้องแพ่ง
เพราะฉะนั้นขอศาลออกหมายเรียกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
1. ขอให้พิพากษาให้ดิฉันและลูก ไปให้ความยินยอมแก่โจทก์ในการที่โจทก์จดทะเบียนรับลูกดิฉัน เป็นบุตรด้วยกฎหมายของโจทก์ หากจำเลยที่1 และจำเลยที่ 2 ไม่ไป ให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2
2.ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแก่โจทก์
[ ดิฉันว่าความเป็นผู้ชายของเขาอยู่ที่ไหนค่ะ บังคับให้ดิฉันและลูกไปศาลเพื่อให้ความยินยอมไม่ไปก็ถือว่ายินยอม ถ้าไปดิฉันสู้คดีได้ไหมค่ะ แล้วดูสิค่ะ ให้ดิฉันและลูก เด็กซึ่งยังไม่ประกอบอาชีพใดๆๆ ให้ร่วมชดใช้ค่าศาล ค่าทนายที่ทำเรื่องให้เขาฟ้องเรา 2 คน แม่ลูก เด็กยังเล็กต้องนำไปศาลหรอค่ะ ไม่นำเด็กไปได้ไหมค่ะ ]
10.ดิฉันได้ยกลูกให้เป็นบุตรบุญธรรมของ คุณพ่อ คุณแม่ดิฉันแล้ว เรียกว่าสายเลือด คุณตา คุณยายเด็ก เป็นพ่อ แม่ บุญธรรมของลูกฉันแล้ว ดิฉันอ้างตรงนี้ได้หรือไม่ และเขาสามารถ เพิกถอนการเป็นพ่อ แม่บุญธรรม ของเด็กได้หรือไม่
[ แต่อย่างไร ดิฉันกับเขา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ในสูติบัตรลูกมีชื่อเขาเป็นบิดา และเคยใช้นามสกุลเขา ขณะนี้ลูกฉันเปลี่ยนนามสกุล ไม่ใช้นามสกุลเขาเรียบร้อยแล้วค่ะ บุตรเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของมารดาเพียงผู้เดียว ดิฉันยกลูกให้พ่อ แม่ ฉัน ไม่ผิดใช่ไหมค่ะ เพราะ พ่อแม่ฉันเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดู และรักลูกดิฉันดั่งบุตรที่แท้จริงค่ะ]
ดิฉันถามมากไปหน่อยนะค่ะ ด้วยความกังวล และต้องการความช่วยเหลือด่วน ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์มีชัยล่วงหน้านะค่ะ ดิฉันจะรอคำตอบค่ะ
ด้วยความเคารพ |