ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    023977 อยากช่วยคุณแม่แก้ไขปัญหาลูกสาวคนกลาง9 ตุลาคม 2550

    คำถาม
    อยากช่วยคุณแม่แก้ไขปัญหา

    เรียน   อาจารย์มีชัยที่เคารพ

    ดิฉันขอบคุณพระคุณมากนะค่ะ สำหรับคำตอบที่ส่งมาให้ครั้งก่อน แต่ดิฉันยังมีเรื่องคับข้องใจอีก เพราะมีปัญหามากมาย เกิดขึ้นกับท่านภายในระยะเวลา 2 ปี และดิฉันอยากจะช่วยคุณแม่ เพราะท่านทำงานหนักมาเพื่อลูกๆ ทั้งสามคนตามลำพัง ตั้งแต่คุณพ่อเสียไปตอนยังหนุ่ม นี้ก็ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่พ้นที่มีเรื่องต้องให้คุณแม่หนักใจและเป็นทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาจารย์จะช่วยชี้แนะและหาทางออกที่ดีที่สุดให้ได้ ซึ่งเรื่องราว มีดังนี้

    ตั้งแต่ ปี 2540 คุณแม่ของดิฉันได้ตกลงอยู่กินฉันสามีภรรยากับ นาย ก (ต่างชาติ) แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน รวมเป็นเวลาประมาณ 8 ปี แต่ต่อมาเมื่อปี 2548 นาย ก แอบไปมีอะไรกับเพื่อนเรียนสมัยตอนเด็กๆ ของพี่สาว (รุ่นลูก แล้วเคยเป็นลูกศิษย์ของคุณพ่อ) แล้วต่อมาคุณแม่จับได้ว่าทั้งสองแอบมีอะไรกัน แล้วนาย ก เลยขอเลิกรากับคุณแม่ แต่ทั้งสองยังมีความผูกพันในบริษัทที่ทำร่วมกัน

    ซึ่งบริษัทนี้ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ ปี 2543 ตั้งอยู่เลขที่ 51/6 โดยทั้งสองได้ลงทุนเปิดบริษัท ก ด้วยวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการซื้อขาย-ขายอสังหาริมทรัพย์ (สร้างบ้านสำเร็จรูป แล้วขายให้กับชาติต่างชาติ) โดยเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นของนาย ก ส่วนคุณแม่จะเป็นจัดการในเรื่องการจัดตั้งบริษัทฯ, การซื้อที่ดิน, การขออนุญาติในก่อสร้าง, การติดต่อและประสานงานในส่วนราชการ และอื่นๆ อีกทั้งได้นำรถยนต์ส่วนเป็นชื่อบริษัท เพื่ออาไว้ใช้สอยในบริษัทด้วย

    ในบริษัทนี้ นาย ก ถือหุ้น 49% คุณแม่ 32% ดิฉัน 15% ญาติ 3 คน คนละ 1% และคนรู้จัก อีก 1%  อีกอย่างเงินที่ได้จากการขายบ้าน นาย ก จะให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวในต่างประเทศส่วนหนึ่ง และอีกส่วนเข้าบัญชีบริษัท ก ดังนั้นราคาขายบ้านพร้อมที่ดินตามจริงจึงไม่ตรงกับราคาที่แจ้งกับกรมสรรพกร

    คำถามมีดังนี้ :

    1.    ทุกครั้งที่มีการซื้อที่ดิน โฉนดที่ดินทุกแปลงจะโอนไว้เป็นชื่อคุณแม่ แต่เงินที่นำมาซื้อที่ดินนั้นจะเป็นเงินสดและเช็คของนาย ก แล้วโฉนดที่ดินบางส่วน ได้ซื้อจากเงินเกิน จากที่บอกขายที่ดินเกินราคาให้กับลูกค้า เพราะคุณแม่เป็นนายหน้าซื้อ-ขายที่ดินด้วย ถ้าหากมีการซื้อ-ขายบ้าน คุณแม่ถึงจะได้เซ็นโอนโฉนดที่ดินให้เป็นชื่อลูกค้าเท่านั้น แล้วยังมีที่ดินอยู่ประมาณ 3 แปลง ที่ยังเป็นชื่อของคุณแม่ (ซึ่งราคาประเมินคร่าวๆ ประมาณ 60 ล้านบาท)

    1)   หากคุณแม่ต้องการขายที่ดิน สารมารถกระทำได้หรือไม่ แล้วจะมีผลตามมาอย่างไร

    2)   ถ้าหากคุณแม่ได้ขายที่ดินบางแปลงให้กับคนอื่นไปแล้ว นาย ก จะสามารถทำการฟ้องร้องได้หรือไม่ อย่างไร

    2.    บริษัท ก ได้สร้างบ้านตัวอย่างอยู่บนเลขที่ 51/7  ซึ่งสร้างบนที่ดิน ที่โฉนดที่ดินและชื่อเจ้าบ้านเป็นชื่อคุณแม่ แต่ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างออกและผู้ยื่นขออนุญาตในการก่อสร้าง โดย บริษัท ก (บ้านหลังนี้คุณแม่เคยอาศัยอยู่กินกับนาย ก) ต่อมานาย ก ได้พาแฟนใหม่เข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้และขับไล่คุณแม่ออกจากบ้าน พร้อมทั้งกำชับยามห้ามเปิดประตูให้คุณแม่เข้ามาในบริเวณพื้นที่บ้านนี้ด้วย

    1)   ไม่ทราบ คุณแม่สามารถขออำนาจศาลไล่ทั้งสองคนออกจากบ้านหรือไม่ อย่างไร

    2)   ถ้าหากคุณแม่ต้องการขายบ้านพร้อมที่ดิน เราจะกระทำได้หรือไม่ อย่างไร

    3)   จะเป็นการดีหรือไม่ ถ้าเราให้ทนายส่งจดหมายไปให้บริษัท ก เพื่อขอให้บริษัท ก ทำสัญญาเช่าบนที่ดินแปลงนี้ แล้วถ้าเป็นการดี ควรให้เช่าเป็นระยะเวลากี่ปี ด้วยเงื่อนไขใดบ้าง

    3.    ตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองได้ทำโครงการร่วมกันมา จนทำให้บริษัทฯ มีกำไร (แต่ไม่มาก เพราะนาย ก ให้ลูกค้าโอนเงินบางส่วนเข้าบัญชีส่วนตัวในต่างประเทศ) แล้วยังมีที่ดินและทรัพย์สินบางส่วนที่เป็นของบริษัท ก อยู่

    1)   ถ้าหากคุณแม่ต้องการจะฟ้องร้อง ควรฟ้องแบบใดถึงจะเป็นการดี อย่างเช่น ฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินแบบหุ้นส่วน หรือ ฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินแบบสามีภรรยา

    2)   หรือไม่ต้องดำเนินการฟ้องร้องดี เพราะใบโฉนดที่ดิน ทั้ง 3 แปลง (รวมทั้งแปลงที่ปลูกบ้านตัวอย่างด้วย) นั้นเป็นชื่อของคุณแม่

    3)   อีกอย่างถ้าหากฟ้องร้องกันขึ้นมา โฉนดที่ดินทั้ง 3 แปลง รวมทั้งบ้านตัวอย่างจะต้องใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงให้การแบ่งสมบัติหรือไม่

    4)   ถ้าหากต้องใช้เป็นหลักฐานในศาล จะเป็นการดีหรือไม่ ถ้าคุณแม่โอนโฉนดที่ดินบางแปลงให้เป็นชื่อของดิฉัน เพราะมีอยู่ 1 แปลงที่ดิฉันร่วมลงทุนซื้อด้วย

    4.    แล้วถ้าหากต้องไปสู้กันที่ศาล เรามีสิทธิที่จะชนะคดีในส่วนใดบ้าง อย่างไร

    ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำตอบจากอาจารย์เร็วๆ นี้

    คำตอบ

    เรียน ลูกสาวคนกลาง

       เรื่องยุ่งเกินกว่าที่จะถามตอบกันทาง web ได้  ควรปรึกษาทนายความ โดยให้เจ้าตัวไปปรึกษาเอง ทนายความเขาจะได้ซักไซร้ไล่เลียงข้อเท็จจริงได้ละเอียด

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    9 ตุลาคม 2550