ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    023790 ดิฉันซื้อบ้านเองหลังแต่งงานโดยใช้นามสกุลเดิมสมศรี27 กันยายน 2550

    คำถาม
    ดิฉันซื้อบ้านเองหลังแต่งงานโดยใช้นามสกุลเดิม

    เรียนท่านอาจารย์

    เนื่องด้วยดิฉันได้แต่งงานกับสามีโดยเราได้จดทะเบียนกันถูกต้อง(2530)แต่ดิฉันยังไม่ได้ไปแจ้งเปลี่ยนบัตรประชาชนเป็นนามสกุลสามี  หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี (2531)ดิฉันได้ไปซื้อบ้านโดยมีการผ่อนดาวน์บ้านด้วยเงินดิฉันเองและชื่อผู้ซื้อก็ยังเป็นชื่อนามสกุลก่อนแต่งเนื่องจากยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนบัตรประจำตัวเลย คือตอนซื้อก็ใช้เป็นนางสาวนามสกุลเหมือนเดิมก่อนแต่งงานทั้งๆที่จดทะเบียนแล้วหลังจากนั้นประมาณ 3 ปี(2533)คุณพ่อดิฉันก็ได้ทำการซื้อที่ดินผืนหนึ่งแล้วก็ใส่ชื่อดิฉันเข้าไปซึ่งก็ยังเป็นนามสกุลของดิฉันเองก่อนแต่งงาน ด้วยเหตุผลเดิมยังไม่ได้เปลี่ยนบัตรประชาชน(หมายเหตุ...การเงินของดิฉันก่อนแต่งงานถือว่าดีไม่เคยเป็นหนี้สินใคร  มีเงินเก็บทางบ้านมีฐานะดีเงินที่ซื้อบ้านมาจากเงินที่ดิฉันเก็บสะสมตอนทำงานอยู่8 ปีและคุณพ่อให้มาด้วย ---สมุดบัญชีทุกเล่มเมื่อ10-20 ปียังเก็บอยู่เลย) ซึ่งต่างกับทางบ้านสามีซึ่งไม่เคยมีเงินในบัญชีทางบ้านมีแต่หนี้สินแต่ก็โชคดีที่มีที่ดินเป็นมรดกจากบิดาหลายร้อยไร่ หลังจากที่บิดาถึงแก่กรรมประมาณ 6-7 ปี (2537)

    สาเหตุที่เรียนถามมาเพราะสามีได้ไปกู้หนี้...ตามสถาบันการเงินบางครั้งก็เป็นการกู้โดยชื่อเขาบางครั้งก็กู้ในฐานะกองมรดกโดยผู้จัดการมรดก2คนเซ็นอะไรสักอย่าง..เท่าที่ดิฉันจับความได้แต่ไม่เคยถามและเข้าไปยุ่งด้วยเพราะเป็นเรื่องของครอบครัวเขา ***  ...โดยเขาอ้างกับสถาบันการเงินว่ายังโสดเพื่อจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับดิฉันและไม่อยากให้ดิฉันรับทราบด้วยเพราะดิฉันไม่ชอบการกู้หนี้ยืมสินใครเนื่องจากบิดามารดาดิฉันสอนพวกเรามามีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น อยู่อย่างพอเพียงไม่ทำอะไรเกินกำลัง...(ต่อคะ)***โดยเอาที่ดินที่เป็นทรัพย์มรดกของตระกูลเขาค้ำประกันซึ่งพี่น้องของเขารับทราบเพราะทุกคนก็ทำแบบเดียวกันเวลาต้องการทุน โดยแต่ดิฉันมิได้ไปยุ่งเกี่ยวด้วย

    ดิฉันขอเรียนถามว่า

    1. บ้านที่ดิฉันซื้อซึ่งใช้เป็นชื่อและนามสกุลก่อนแต่งงานรวมทั้งที่ดินของคุณพ่อที่บังเอิญใส่ชื่อดิฉัน ปัจจุบันนี้ท่านยกให้ดิฉันถาวรแล้วท่านไม่เอาแล้วด้วย จะถือเป็นสินสมรสหรือไม่  และเจ้าหนี้ของสามีสามารถยึดได้ไหมคือบังคับขายทอดตลาดชดใช้หนี้ที่สามีติดค้าง.....เพราะทั้งบ้านและที่ดินเป็นของดิฉันที่ใช้นามสกุลเดิมก่อนแต่งงาน

    2. ดิฉันสามารถให้สามีทำเอกสารบางอย่างให้ดิฉันเพื่อแสดงว่าบ้านและที่ดินเป็นของดิฉันคนเดียวเองโดยสามีไม่มีสิทธิ์ในบ้านและที่ดินนี้.ไม่ว่าปัจจุบันหรือต่อไปในอนาคตได้หรือไม่........ทั้งนี้เนื่องจากกลัวว่าเจ้าหนี้จะมายึดบ้านนี้โดยถือเป็นส่วนของสินสมรสกึ่งหนึ่งของสามี.....หรือพอจะมีวิธีใดเพื่อป้องกันไว้ก่อน

    3. หย่ากันเลยดีไหม.?....โดยที่สามียอมทุกอย่างเพื่อให้ดิฉันและลูกอยู่อย่างสบายใจ เพราะเวลาหย่า บ้านและที่ดิน รวมทั้งรถก็เป็นชื่อของดิฉันอยู่แล้วถ้าสามีตกลงว่าอะไรที่เป็นชื่อของดิฉันก็ยังคงเป็นของดิฉัน  ส่วนเรื่องหนี้สินสามีทำก็คงต้องรับผิดชอบเอง และยังมีหนี้ที่เขายืมพี่ชายดิฉันอีกล้านกว่าบาทโดยออกเช็คว่าจะจ่ายคืนภายใน3 อาทิตย์แต่ยังไม่ได้ลงวันที่แต่ตอนนี้เลยมา3 ปีแล้วดิฉันต้องนำเงินที่ได้รบมรดกจากคุณแม่ดิฉันไปชดใช้หนี้ให้พี่ชาย..แทน 

    ดิฉันใคร่ขอคำชี้แนะจากอาจารย์ว่าวิธีไหน.....2 หรือ 3...........ที่จะทำให้ไม่มีใครสามารถมายึดบ้านที่ดิฉันซื้อมาเองได้เพราะมันเป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายในชีวิตดิฉันแม้ว่ามันจะเป็นบ้านทาวเฮ้าส์เล็กๆหลังหนึ่งก็ตาม แต่มันบ้านที่ดิฉันซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของดิฉันเองคนเดียวแท้โดยใช้เงินที่เก็บสะสมมาตลอดตั้งแต่ทำงาน

    บกวนอาจารย์ด้วยคะ

    ขอกราบขอบพระคุณมาล่วงหน้า

    ............และ จะรอคอยคำตอบจากอาจารย์ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ

     

     

     

    คำตอบ

    เรียน คุณสมศรี

    1. บ้านที่คุณซื้อนั้นถ้าว่าโดยกฎหมาย ก็เป็นสินสมรส เพราะได้มาในระหว่างสมรส เว้นแต่จะมีหลักฐานหรือพิสูจน์ได้ว่าคุณได้ใช้เงินที่เป็นสินส่วนตัวไปซื้อหามา   ส่วนที่ดินที่พ่อยกให้นั้นเป็นสินส่วนตัว

    2. ถ้าคุณเก็บหลักฐานเงินในบัญชีที่มีก่อนสมรส และแสดงได้ว่าเงินที่ซื้อบ้านนั้นมาจากเงินดังกล่าว ก็เพียงพอที่จะแสดงว่าเป็นการใช้เงินสินส่วนตัวไปซื้อมา ซึ่งจะทำให้บ้านที่ซื้อมาเป็นสินส่วนตัวไปด้วย

    3. ถ้าหย่ากันแล้วเกิดวันหลังเขาไปมีคนอื่น คุณก็จะน้ำตาตก กลายเป็นเมียน้อยไป


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    27 กันยายน 2550