เรียน ท่านอาจารย์มีชัย

ผมตัดสินใจกัดฟันซื้อบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้นราคาไม่น้อยย่านรังสิตไม่นานนี้

หลังจาก 2 คนกับภรรยาประหยัดอดทนเก็บเงินกันมากว่า 10 ปี

ใช้เวลาตระเวนดูบ้านมาเกือบ 2 ปีเนื่องจากกลัวเจอปัญหาหมู่บ้านโกงหรือ

เพื่อนบ้านไม่ดีแบบที่หลายๆคนเจอกัน

แต่ไม่คิดเลยว่าเลือกหมู่บ้านที่ราคาสูงขนาดนี้ ก็ยังต้องเจอปัญหาจนได้

เพราะปรากฎว่าบ้านอีกหลังซึ่งหันหลังชนกันอีกด้านได้ต่อเติมห้องครัวมาชิดรั้ว

เมื่อมาเข้าอยู่ แถมเปิดโล่งทำอาหารควันลอยมาที่ห้องนอนลูกสาวผมทุกครั้ง

ผมพยายามไม่พูดอะไรเพราะไม่อยากมีเรื่อง เนื่องจากทราบว่าเจ้าของบ้าน

เป็นอัยการประจำกรม แต่สุดท้ายทนลูกสาวขอร้องไม่ไหวเพราะแกเป็น

ภูมิแพ้ จึงขอร้องให้เขาปิดทึบไม่ต้องรื้อออกก็ได้ เพราะมันไม่ไหวจริงๆ

ผมพยายามขอร้องทางฝ่ายบ้านอัยการด้วยเหตุผล ไม่กล้ายกข้อ

กฎหมายแม้จะมีคนบอกว่าเขาผิด 100% เพราะต่อเติมไม่ได้ขออนุญาต

และสร้างชิดกำแพงแบบนี้ไม่ได้ ต้องรื้อออกเลย ถ้าเราฟ้องศาล

เจรจากันหลายครั้ง แต่ภรรยาเขาไม่ยอมท่าเดียว โวยวายทุกครั้ง

แถมยกตำแหน่งสามีขึ้นมาพูดอยู่ตลอดเวลาเหมือนขมขู่เรา

แต่ในที่สุดทางฝ่ายสามีเขาก็ยอมปิดบานเกร็ดทึบให้

เพราะผมบอกว่าถ้าสุดท้ายไม่ได้จริงๆ

ผมก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟ้องศาล ซึ่งผมก็ยอมรับได้จะได้จบๆกันไป

ปัญหาก็น่าจะจบลงด้วยดี  แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้น

ภรรยาผม จะได้ยินเสียงด่าประชดประชันจากภรรยาของอัยการท่านนี้

ข้ามรั้วมาให้เข้าหูแทบทุกวันที่เขารู้ว่าภรรยาผมกลับจากทำงาน

และเข้ามาในบ้านแล้ว เพราะภรรยาผมทำงานแค่นวนครกลับบ้านตั้งก่อนค่ำ

 ส่วนผมอยู่พระประแดงกว่าจะถึงบ้านก็เกือบ 3 ทุ่มแทบทุกวัน

ผมก็บอกให้ภรรยาผมไม่ต้องสนใจ แต่กลับดูเหมือนยิ่งมากขึ้น

เช่นการชะโงกข้ามรั้วบ้านมา พูดประชดประชันภรรยาผม เช่น อย่าส่งเสียงดังน่ะ

อย่าทำครัวตอนกลางคืนน่ะเพราะรบกวนเขา

ทีเขายังยอมทำบานเกร็ดให้เลย  หรืออื่นๆอีกหลายอย่าง

โดยอัยการก็รับรู้ถึงการกระทำของภรรยาเขาดี

เพราะเขาก็ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในบริเวณใกล้ๆนั้น

แทบทุกครั้งที่ภรรยาเขากระทำแบบนี้

ผมไม่แน่ใจว่าความอดทนเราจะมีได้แค่ไหน

จึงอยากเรียนถามอาจารย์ 2  ประเด็นครับ

ประเด็นแรก

ผมจะสามารถดำเนินการทางกฎหมายอะไรที่จะระงับ

ไม่ให้เขามารบกวนแบบนี้ได้ไหม

เพราะมั่นใจว่าเราไม่เคยทำอะไรที่เป็นการละเมิดสิทธิหรือรบกวนเขาเลย

เคยอธิบายกับเขาแล้ว เขาก็ทำแบบนี้อยู่

ประเด็นสอง

จริงๆข้อนี้ไม่อยากถาม แต่ผมคิดว่าคนที่ทำงานในกระบวนการยุติธรรม

น่าจะวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดี

ตัวเองตัดสินคนอื่นผิดถูก แต่ทำไมกลับละเมิดกฎหมายเสียเอง

พอต้องแก้ไข ภรรยาตนเองไประรานชาวบ้านเขาโดยตัวเองก็รู้

แบบนี้ผมคิดว่าไม่น่าถูกต้อง

ผมสามารถไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาหน่วยงานเขา

ให้ตักเตือนเขาจะได้ไหมครับ

ต้องขออภัยท่านอาจารย์มากๆหากเป็นการถามที่ไม่เกิดประโยชน์

เพราะผมและภรรยากลุ้มใจมากๆ อยากเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน

และเราก็คงไม่มีปัญญาขายบ้านหนีไปอยู่ที่ไหนได้ เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ทุกวันนี้ก็ผ่อนส่งแทบจะไม่เหลือกินกันแล้วต่อเดือน

ขอขอบคุณพระคุณอาจารย์อีกครั้ง

นรุต

เรียน คุณนรุต

   ประเด็นแรก  ถ้าเขาพูดจาอะไรที่ไม่น่าฟัง แต่ยังไม่เป็นการหมิ่นประมาท ก็คงยังทำอะไรเขาไม่ได้  แม้จะมีกฎหมายเรื่องห้ามการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ แต่ก็ยากที่จะไปพิสูจน์ได้ เพราะคนที่ไม่ได้ฟังอยู่ทุกวัน คงยากที่จะพิสูจน์ให้เข้าใจได้  บางทีคุณอาจจะต้องไปพูดกับสามีที่เป็นอัยการดี ๆ ว่าขอให้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเถอะ บางทีอาจจะได้ผลบ้าง  ถ้าไม่มีโอกาสพูดกับเขาโดยตรง ก็อาจเขียนเป็นจดหมายส่งถึงตัวเขาโดยตรง แต่ระมัดระวังคำพูดหน่อยก็จะดี

   ประเด็นที่สอง บางทีตัวสามีอาจจะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับภรรยาของตัวก็ได้  เพราะถ้าผู้หญิงที่มีนิสัยระรานกับเพื่อนบ้านอย่างนี้ เมื่ออยู่ในบ้านก็คงระรานสามีเป็นประจำ จนสามีคร้านที่จะเข้ามาห้ามปรามก็ได้  การไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาเขานั้นอาจทำได้ แต่เมื่อจะมีเรื่องกับอัยการก็ต้องระมัดระวังมิให้เป็นการหมิ่นประมาทเขาได้

    ขอได้รับความเห็นใจจากการมี "เพื่อนบ้านร้าย"