ทราบว่าอาจารย์ได้ร่วมร่างกฎหมายสัญชาติของ สนช. เท่าที่อ่าน ดูเหมือนเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคชายหญิง โดยไม่มองสถานการณ์ปัจจุบันที่มีคนหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก จึงอยากทราบว่า
1) หากพ่อแม่หลบหนีเข้าเมืองแต่ลูกได้สิทธิอาศัย พ่อแม่ถูกจับและผลักดันกลับ ลูกจะเป็นปัญหาสังคมหรือไม่
2) ทำไม่ต้องให้คนไร้ความสามารถและเด็กที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สามารถแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ เพราะขนาดกม.คนเข้าเมืองยังห้ามมิให้คนไร้ความสามารถเข้ามามีถิ่นที่อยู่ แต่นี่เป็นเรื่องการให้สัญชาติซึ่งสำคัญกว่า
3)เราต้องการให้คนทำถูกกม. แต่ทำไมต้องให้เด็กที่เกิดจากบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาได้โดยการเกิดด้วย จะเชื่อมโยงและกระทบกับกม.แพ่ง และสิทธิในการรับมรดกหรือเปล่า
1. ไม่อ่านร่างเขาให้ละเอียดก่อนหรือ เขาเขียนว่าลูกมีสิทธิอยู่อาศัยได้ตราบเท่าที่บิดามารดายังอยู่อาศัยในเมืองไทยไม่ใช่หรือ
2. นี่แหละหนา เป็นข้าราชการมีอำนาจ จึงไม่ค่อยจะดูอะไรให้ละเอียด ในร่างนั้นเขาไม่ได้สร้างสิทธิให้เกิดแก่คนไร้ความสามารถหรือเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ ถ้าคนเหล่านั้นไม่มีสิทธิได้สัญชาติก็แล้วไป แต่ถ้าคนเหล่านั้นเขามีสิทธิได้สัญชาติ เช่น พ่อแม่เขาเป็นคนไทย เมื่อคลอดแล้วก็ทิ้งลูกไว้ เด็กตัวเล็ก ๆ จะไปยื่นขอสัญชาติได้อย่างไร จะปล่อยไว้จนบรรลุนิติภาวะก็คงหาหลักฐานไม่ได้แล้ว เขาจึงกำหนดช่องทางว่า ผู้อนุบาล (สำหรับคนไร้ความสามารถ) หรือเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ (ในกรณีเด็ก) สามารถยื่นให้แทนได้
3. เด็กที่เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนั้น แม้ว่าในทางกฎหมายเขาจะยังไม่ใช่ลูกของชาย แต่เขาก็มีสิทธิ (เมื่อเขาโตขึ้น หรือโดยผ่านทางมารดา) ที่จะฟ้องขอให้ชายนั้นรับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายได้ และตามกฎหมายเมื่อเขาได้รับการรองรองว่าเป็นบุตร ไม่ว่าจะโดยพ่อเขาจดทะเบียนเองหรือศาลสั่งก็ตาม เขาก็มีสิทธิได้รับมรดกของบิดาของเขา สำหรับเรื่องสัญชาตินั้นเมื่อเด็กนั้นเป็นเชื้อสายของคนไทย คุณจะผลักไสให้เขาไปขอสัญชาติใครเขาได้ล่ะ มนุษย์นั้น ต้องมีเมตตาธรรมอยู่ในใจและนึกถึงหัวอกคนอื่นบ้าง ไม่ใช่จะเรียกร้องแต่เฉพาะที่เป็นประโยชน์ส่วนตน อนึ่ง การที่กฎหมายแพ่งกำหนดว่าการสมรสจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อจดทะเบียนสมรสกันนั้น ไม่ได้แปลว่าชายหญิงที่เขาอยู่กินด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนสมรสนั้นจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย