ปฏิรูปสื่อ
เรียน อ.มีชัย ที่เคารพนับถือยิ่ง
ขอขอบพระคุณที่ท่าน อ.มีชัย ได้สละเวลาตอบ Mail ขอบคุณที่เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้การสื่อสารนั้นรวดเร็ว นอกจากนี้ ก็ต้องขอขอบคุณ อ.มีชัย ที่รับฟังด้วยความเห็นใจ ส่วนประเด็นที่ท่านอาจารย์ยังจับไม่ได้เพราะ
ตอนนี้อาจยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับ อสมท เพียงแต่มีอยู่วันหนึ่งตัวแทนพนักงาน
(สหภาพฯ) ได้มาสรุปผลกระทบของ อสมท จากการปฏิรูปสื่อที่กำลังจะเกิดขึ้นให้พนักงานทราบเพื่อจะได้มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า อนาคตของคนในสื่ออย่างพวกเราคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจึงคิดว่า เรื่องนี้น่าจะถามท่าน อ.มีชัย คงจะได้ความกระจ่างเกี่ยวกับกฎหมายการปฏิรูปสื่อที่มีการนำเสนอเข้าสภาฯฉบับ สนช. และมีอีกหนึ่งฉบับของชุดรัฐบาล
ที่กำลังจะตามมา แต่จากการอ่านฉบับร่างของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ หลายข้อที่มีการร่างลงในพ.ร.บ.ฉบับนี้ ทำให้ดิฉันมีคำถามของตัวเองที่อยากจะถามท่าน อ.มีชัยว่า จะมีพื้นที่ให้สื่อที่เป็นแบบ อสมท (ขออนุญาตเรียกตัวเองว่ากึ่งพาณิชย์) หรือไม่ เพราะขณะนี้สถานีวิทยุ อสมท เราได้กลับมา บริหารจัดการเอง 100% กิจกรรมและเนื้อหาในรายการพวกเรามีอิสระในการคิดประเด็นไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนอกสถานที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม วัฒนธรรม รวมทั้งกิจกรรมที่จะเกิดประโยชน์ต่อเยาวชน และแน่นอนว่า 20 กว่าปีที่ตั้งใจทำงานสื่อวิทยุ อสมท โดยไม่ไปไหน ก็เพราะว่าที่นี่ให้อะไรกับประชาชนได้มากกว่าที่อื่นโดยเฉพาะในแง่มุมที่ท่าน อ.มีชัย เขียนมา ดิฉันก็เห็นด้วยคือ "แง่มุมที่ธุรกิจทำไม่ได้เพราะไม่เอื้อต่อการทำกำไร" เช่น ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ฟังมาตามหาดิฉัน ถึงสถานีฯ และกว่าจะหาพบก็ใช้เวลาหลายวัน เพียงเพราะต้องการให้ดิฉันไปพูดคุยกับน้องชายให้เลิกยาเสพติด หรืออีกรายที่กำลังจะฆ่าตัวตายเพราะถูกคุณพ่อบังคับหักดิบขังอยู่ในบ้าน โชคดีที่เธอตัดสินใจมาคุยกับดิฉันเพราะได้ยินดิฉันจัดรายการและเปิดสายให้คำปรึกษาหลังจบรายการได้ ทำให้นาทีวิกฤตในวันนั้นพลิกชีวิตเธอ เด็กคนนั้นเปลี่ยนใจและติดต่อกับดิฉันมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยกำลังใจจากสิ่งที่ทำอยู่ทำให้คิดว่า หากเป็นสื่อที่ทำธุรกิจจริง ๆ เขาจะยอมให้เราคิด ผลิต เดินทางไปต่างจังหวัดทั่วประเทศไทยเพื่อไปรับรู้ปัญหาเด็ก ๆ ที่บำบัดในวิวัฒน์พลเมืองหรือไม่ เพราะการเดินทางแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายสูงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคำตอบจะออกมาอย่างไรดิฉันก็คงต้องยอมรับ
การตัดสินใจของกลุ่มที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช่หรือไม่่ค่ะ ท่านอาจารย์ ทั้ง ๆ ที่ดูจากประวัติของผู้ร่างฉบับ สนช. หลายท่านก็เป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการทำธุรกิจสื่อและรู้สึกผิดหวังเพราะบางท่านอาจถูกเจ้าของสื่อบางแห่งเอารัดเอาเปรียบ ต้องจ่ายอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่คงไม่ยุติธรรมสำหรับหน่วยงานที่ไม่เป็นเช่นท่านอื่น พวกเราจึงเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่า "กม.ผ่า อสมท" เพราะพวกเรารู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ หากต้องการให้แข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรม ก็ควรจะทำให้เสรีและเป็นธรรมกับผู้ที่เป็นเจ้าของสื่อทุกหน่วยงานโดยไม่มีข้อยกเว้น ท่านมีความเห็นเรื่องแข่งขันเสรีและเป็นธรรมว่าอย่างไรค่ะ
ท้ายนี้กราบขอบพระคุณและขออภัยที่รบกวนเวลาท่าน อ.มีชัย อาจจะเขียนมายาวสักหน่อยเพราะเป็นคนชอบการพรรณนามากกว่าเขียนเป็นข้อ ๆ |