ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    023538 เสียรู้กับบัตรเครดิตคนเสียรู้13 กันยายน 2550

    คำถาม
    เสียรู้กับบัตรเครดิต
        ดิฉันทำบัตรเครดิต Ktc  ในเครือของธนาคารกรุงไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ในวงเงิน 15,000  บาท ครั้งแรกบริษัทโอนเงินให้ทันที 10,000 บาท เมื่อเดือนสิงหา  แต่ดิฉันไม่ได้ใช้เลยกด 10,000 ใส่ในบัตรคืน แล้วทางบริษัทบอกว่าอีก 5,000 บาท จะโอนให้ในบัตรภายหลัง ซึ่งหลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ได้กดเงินอีกเลิย จนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2549 ดิฉันต้องการใช้เงินจึงได้ไปกดเงินแต่ทว่าดิฉันจำรหัสผิด 3 ครั้งจึงโดนอายัดบัตรซึ่งดิฉันได้แจ้งทางบริษัทเรียบร้อยแล้ว แต่พอสิ้นเดือนมีใบแจ้งการชำระเงินเป็นยอด 4,500 บาท ซึ่งดิฉันก็สงสัยว่า 10,000 บาท ก็ไม่ได้กดใช้ และ 5,000 บาทก็ไม่รู้ว่าบริษัทโอนมาให้เมื่อไหร่ และก็ไม่ได้กดใช้เลย ซึ่งโทรไปที่บริษัทเขาบอกว่าเป็นยอดที่ดิฉันกดจากยอดเงิน 5,000 บาท แต่กดเพียง 4,500 บาท ในวันที่  21 กันยายน 2549 ซึ่งระหว่างนั้นดิฉันไม่ได้ใช้บัตร Ktc เลย และเขาบอกว่าหากจะได้บัตรใหม่ ให้ชำระยอดขั้นต่ำก่อน เดือนละ 600 บาท ซึ่งดิฉันก็ได้หลงส่งไป 2 เดือน 1,200 บาท ประมาณ 2 เดือนกว่าบัตรจะได้ และบริษัทได้แจ้งยอดหนี้ค้างชำระอีก 4,753 บาท เป็น จากยอด 4,500 บาท ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้กดใช้ เพราะยอดการกดเงินนั้น ก่อนที่บัตรจะถูกอายัด  ซึ่งทุกวันบริษัทก็แจ้งให้ชำระและจะอ้างว่าจะดำเนินคดี ซึ่งดิฉันก็บอกว่า ให้หาหลักฐานการกดเงินว่ากดจากตู้ ATM ธนาคารไหน เมื่อไร เขาบอกว่าไม่รู้ตู้ไหนแต่รุ้ว่ามีคนกด วันที่ 21 ก.ย. 49 เวลา14.20 น. วันศุกร์ ซึ่งในวันนั้นดิฉันก็อยู่แต่ที่ทำงานและบัตรก็อยู่ติดตัวตลอด และที่บ้านก็มีกันดิฉันกับแม่ชราเท่านั้น เป็นไปได้ไหมที่ดิฉันจะถุกโกงเงิน และถ้าดิฉันไม่ชำระยอดที่เหลือซึ่งบัดนี้ เงินต้น + ดอกเบี้ยประมาณ 7,085 บาทและก็จะมากขึ้นทุกเดือน คุณอามีชัยช่วยชี้แนะดิฉันหน่อย เพราะดิฉันไม่อยากเสียเงินโดยที่ดิฉันไม่ผิด
    คำตอบ

    การเสียรู้และต้องเป็นหนี้ไปเจ็ดพันกว่าบาทนั้น ควรเพียงพอที่จะเลิกใช้บัตรเครดิตได้ เพราะอันที่จริงบัตรเครดิตนั้นในเบื้องต้นเขามีไว้เพื่อให้ความสะดวกในการที่จะใช้จ่ายเงิน(ของเรา) โดยไม่ต้องไปเบิกเงินสดมาถือไว้  ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้ก่อหนี้ แต่พวกสถาบันการเงินเขาเห็นช่องที่จะล่อใจคนจึงขยายกิจการให้กลายเป็นการช่องทางในการก่อหนี้เพื่อจะเรียกเก็บดอกเบี้ยแพง ๆ  ถ้ายังไม่รีบไปใช้ให้เขา เงินเจ็ดพันก็จะกลายเป็นหมื่น ๆ ในไม่ช้า

           การที่จะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้กดเงินมาใช้นั้น เป็นเรื่องยาก และจะต้องเป็นคดีกันไปอีกนาน ในระหว่างที่เป็นคดีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละยี่สิบกว่า ก็จะเดินไปเรื่อย ๆ กว่าคดีจะเสร็จถ้าชนะคดีก็แล้วไป แต่ถ้าแพ้คดีก็จะเป็นหนี้สินเขาเพิ่มพูนอีกมากมาย ยังไม่นับถึงค่าดำเนินคดี ค่าทนายความซึ่งไม่รู้อีกเท่าไร

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    13 กันยายน 2550