ดิฉันกับสามี(ไม่ได้จดทะเบียน) ได้กู้ร่วมซื้ออาคารชุดโดยที่ใช้ชื่อฝ่ายชายเป็นผู้กู้หลัก
และดิฉันเป็นผู้กู้ร่วม  ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาชำระหนี้โดยหักจากบัญชีเงินฝาก ชื่อ 2 คนร่วมกัน
ต่อมาแยกทางกันเนื่องจากฝ่ายชายไปมีภรรยาใหม่ ซึ่งได้ปิดบัญชีเงินฝากร่วม ทำให้ทางธนาคารไม่สามารถตัดเงินจากบัญชีได้ หลังจากนั้นดิฉันได้ชำระเงินกู้มาต่อเนื่องอีกประมาณ 1 ปี
และได้ปรึกษาทางธนาคาร แนะนำให้ผู้กู้ร่วมเซ็นต์โอนกรรมสิทธิ์ เพื่อขอทำสัญญากู้ใหม่ให้เป็นชือดิฉันคนเดียวได้ เพื่อป้องปัญหาการโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคต

ดิฉัน ได้ติดต่อฝ่ายชายหลายครั้ง ทั้งติดต่อด้วยตนเอง และติดต่อผ่านทางธนาคาร เพื่อขอร้องให้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ ให้เรียบร้อย แต่ฝ่ายชายไม่ยินยอมการโอนกรรมสิทธิ์ โดยยืนยันว่าให้
เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล ดังนั้นดิฉันจึงตัดสินใจหยุดผ่อนชำระ

ดิฉันมีข้อปรึกษาดังนี้ค่ะ
1.  การพิจารณาสัดส่วนการชำระหนี้ระหว่างผู้กู้หลัก และผู้กู้ร่วมมีวิธีการพิจารณาอย่างไร
2.  หากดิฉันผ่อนชำระต่อไปจนหมด จะสามารถฟ้องเพื่อเรียกร้องทรัพย์สินให้เป็นของดิฉันได้หรือไม่
2.  ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ฝ่ายชายไม่ให้ความร่วมมือในการโอนกรรมสิทธิ์ จนกว่าจะขายทอดตลาดได้นั้น(สูงมาก) ดิฉันสามารถฟ้องร้องให้ฝ่ายชายเป็นผู้รับผิดชอบได้หรือไม่ เนื่องจากดิฉันได้พยายามจะหาวิธีการหยุดภาระหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายชายเลย

ดิฉันขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วยว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง

1. เมื่อเป็นผู้กู้ร่วม เจ้าหนี้เขาย่อมเรียกเอาจากใครคนใดคนหนึ่งทั้งหมดได้

2. ถ้าเคยขอร้องแล้วเขาไม่ยอม ก็คงจะพออ่านนิสัยได้ว่าเขาคงไม่โอนอ่อนอะไรให้ ดังนั้นถ้าคุณจะเอาเป็นกรรมสิทธิของคุณ เขาก็คงเรียกร้องส่วนของเขา

3. การที่ดอกเบี้ยเกิดขึ้นเพราะคุณไม่จ่ายเงินต่อไปด้วย เขาจึงอาจไม่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด