ประการที่ 1 การที่หัวหน้าส่วนการคลัง อปท.แห่งหนึ่ง นำเงินสวัสดิการ เช่น ค่ารักษาพยาบาล และ เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ของพนักงานส่วนท้องถิ่นในจังหวัด ของพนักงานทุกคนใน อปท. โอนเข้าบัญชีตนเองรวมกับเงินเดือน เพื่อทำการหมุนบัญชีเงินฝากในการสร้างเครดิตเพื่อเอาสินเชื่อ นั้น แล้วนำเงินสดออกจากบัญชีมาจ่ายให้พนักงานเป็นค่ารักษาพยาบาล  รวมถึงนำเงินสดไปจ่ายค่าสหกรณ์ออมทรัยพ์จังหวัด ถือว่าผิดวินัย หรือว่ากฎหมายใดหรือไม่

ประการที่ 2 มีการนำเงินสั่งจ่ายเป็นเช็คที่จะจ่ายเป็นค่าเบี้ยยังชีพฯให้แก่ราษฏร ไปฝากเข้าบัญชีของตนเอง ก่อนประมาณ 2-3 วันเพื่อหมุนบัญชีตนเอง พอถึงวันจ่ายเงินเบี้ยยังชีพถึงจะนำเงินสดออกมาจ่าย ในกรณีนี้ผิดหรือไม่ ถ้าผิดผิดอย่างไร

ประการสุดท้าย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดงบในการซื้อของศูนย์เด็กเล็กให้ อปท.แต่ละแห่งเป็นเงิน 100,000 บาท โดยทางกรมฯ ได้ออกหนังสือมาว่าให้อปท.แต่ละแห่งดำเนินการจัดซื้อเอง หากยังไม่ได้ดำเนินการให้รีบดำเนินการ แต่มีบริษัทแห่งหนึ่งทำการฉวยโอกาสในเรื่องนี้ทำการจัดซื้อและส่งสินค้ามายัง อปท.ในทุกๆแห่ง โดยพื้นที่อำเภอของข้าพเจ้าและใกล้เคียงก็ได้สอบถามกันบางแห่งก็เรียกให้เอาคืนเพราะว่า สินค้ามีจำนวนไม่มากนักแต่ราคาแพงมากๆ ปลัด อปท.บางแห่งไปสืบราคาเอง ได้ราคาประมาณ 70,000 บาท บางแห่งก็เรียกให้มาเอากลับไปแต่เขาก็อ้างว่ากรมฯ เป็นคนสั่งมาไม่ยอมเอากลับไป แต่ที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่นั้นด้วยหัวหน้าส่วนการคลังเห็นแก่ส่วนแบ่งที่จะได้จากบริษัทนั้นจึงทำการตกลงสัญญากับบริษัทดังกล่าว จึงไม่สามารถคืนของได้ และในการจัดซื้อจัดจ้างที่อยู่ๆก็มานั้น ข้าพเจ้าถูกแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ อีกทั้งนายกฯ ได้เซ็นในใบจัดซื้อจัดจ้างไปแล้ว จึงขอเรียนถามอาจารย์มีชัยว่า ข้าพเจ้าควรจะทำอย่างไร ดีค่ะตอนนี้ข้าพเจ้าก็ยังไม่ยอมเซ็นต์เอกสารให้เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้อง

ขอบคุณค่ะอาจารย์

ประการที่ 1 และประการที่ 2 นอกจากผิดทางวินัยแล้วอย่างร้ายแรงแล้ว ยังอาจผิดอาญาในฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ด้วย

ประการที่ 3 ควรมีหนังสือถึง นายก อบต. ท้าวความให้เห็นว่า ท้องถิ่นมิได้สั่งซื้อ แต่บริษัทส่งมาเอง นายก อบต. ประสงค์จะให้รับไว้หรือไม่ หาก นายกฯ เห็นว่าตนได้สั่งซื้อแล้ว คุณก็ตรวจพิจารณา หากถูกต้องก็รับไว้ ทั้งหมดนี้ควรทำเป็นหนังสือ