สวัสดีครับ อ.มีชัยที่เคารพ
ผมมีเรื่องสอบถามดังนี้ พ่อกับแม่ของผมแต่งงานกันเมื่อปี 2515 โดยมีผมเป็นลูกคนเดียว ต่อไปได้หย่าขาดจากกันในปี 2517 โดยแบ่งสินสมรสกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากเลิกกับแม่ของผมแล้ว พ่อก็มาซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน แล้วพ่อก็แต่งงานใหม่ในปี 2521 มีลูกอีก 2 คน ต่อมาปี 2539 ภรรยาใหม่ของพ่อเสียชีวิตลง และเดือนมิถุนายน 2550 พ่อของผมก็ได้เสียชีวิตอีก ผมมีเรื่องสอบถามดังนี้
1.ผมมีสิทธิในมรดกนี้หรือไม่เท่าใด เพราะเนื่องจากญาติทางฝ่ายภรรยาใหม่ของพ่อไม่ยอมแบ่งอะไรให้เลย โดยบอกว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากที่หย่าขาดจากแม่ของผมแล้ว
2.น้องของผมบอกว่าพ่อได้สั่งเสียไว้ก่อนตาย ให้แบ่งที่นาจำนวน 1 ไร่ของผม ส่วนที่เหลือให้น้องอีก 2 คน เอาไปแบ่งกันคนละครึ่ง โดยมีน้องสาวของพ่อเป็นพยาน อย่างนี้จะถือว่าเป็นพินัยกรรมหรือไม่
3.น้องของผมบอกว่าจะเป็นผู้จัดการมรดก โดยให้ผมเซ็นต์ยินยอมด้วย อย่างนี้ผมควรจะยอมหรือไม่
4.ถ้าตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้จัดการมรดกจะมีอำนาจเด็ดขาดทั้งหมดหรือไม่ ถ้าผู้จัดการมรดกแบ่งทรัพย์สินโดยไม่เป็นธรรมจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขอบคุณมากครับ
ณัฐปคัลภ์
เรียน คุณณัฐปคัลภ์
1. เมื่อแม่เลี้ยงตาย ทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรสกับพ่อ ย่อมแยกออกเป็นสองส่วน เท่า ๆ กัน ต่างคนต่างได้คนละครึ่ง ส่วนของแม่เลี้ยงนั้นเมื่อตายไปจึงตกเป็นมรดก ซึ่งพ่อจะมีส่วนได้เท่ากับลูก (ที่เกิดกับแม่เลี้ยง) เมื่อพ่อตาย ทรัพย์ที่ได้รับแบ่งครึ่งมาจากแม่เลี้ยงรวมกับส่วนที่ได้มรดกจากแม่เลี้ยง จึงเป็นมรดกของพ่อที่จะได้แก่ลูก ๆ ทุกคน ทั้งลูกจากเมียเดิม (คือคุณ) และเมียใหม่ ดังนั้นคุณจึงมีสิทธิในมรดกนั้นเท่า ๆ กับลูกคนอื่น ๆ ของแม่เลี้ยง
2. คำสั่งเสียไม่ใช่พินัยกรรม แต่ทายาทอาจตกลงกันให้เป็นไปตามคำสั่งเสียก็ได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องถือว่าเป็นมรดกที่ไม่มีพินัยกรรม และตกแก่ลูก ๆ ทุกคน ๆ ละเท่า ๆ กัน
3.ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าน้องจะยุติธรรม คุณก็อาจขอเข้าร่วมเป็นผู้จัดการมรดกด้วยก็ได้
4. ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่แบ่งมรดกให้แก่ทายาทตามสิทธิของแต่ละคน ถ้าแบ่งไม่ถูกต้องทายาทก็ฟ้องร้องได้