ละเมิด เรียกค่าเสียหาย ( ต่อ )
วันที่ 12 ต.ค 2549 ดิฉันได้ให้คำเบิกความต่อศาลพาดพิงพึงบุคคลที่สาม ( แม่สามี ) ว่าได้พาดิฉันไปทำงานที่ประเทศบาเรน วันที่ 3 พ.ค 2549 ตำแหน่งแม่บ้านแต่พอไปจริงกับให้ขายบริการทางเพศและยึดพาสปอตร์ไว้ แต่ว่าได้มีคนไทยมาช่วยออกไปได้ แต่พอรู้ว่าถูกหลอกไปขายบริการพอกลับมาเมืองไทยเดือน ก. ย 2549 ก็ไม่ได้แจ้งความเพราะว่าไม่อยากเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งตอนนั้นแม่สามีวีซ่าหมดอายุและได้อยู่กับคนไทยซึ่งมีแฟนเป็นฝรั่งอเมริกาที่คอยหาผู้หญิงไทยมาขายบริการที่บาเรนซึ่งทุกคนเรียกว่า มาม่าซัง ซึ่งตอนนี้เปิดร้านเสริมสวยแล้ว ดิฉันไม่อยากมีปัญหาตามมาจึงไม่ได้แจ้งความ ซึ่งเป็นคำให้การในศาล โดยทุกคนทางครอบครัวดิฉันและครอบครัวสามีรู้กันทุกคนว่าดิฉันไปทำงานแม่บ้านกับแม่สามี ซึ่งได้มีหมายเรียกคดีมโนสาเร่ ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 300000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยในวันที่ 24 ก.ย 2550 ต้องไปให้การแก้ข้อกล่าวหาและสืบพยานซึ่งงกลับเมืองไทยไม่ได้เพราะว่าติดสัญญา ซึ่งตอนนี้ดิฉันทำงานเป็นแม่บ้านโดยมีวีซ่าและบัตรประชาชนสำรองของบาเรนแล้วด้วยและก็ไม่มีใครเป็นพยานให้นอกจากแฟนที่เป็นชาวต่างชาติ และแม่แฟนกลับเมืองไทยได้เพราะว่าทางสถานทูตไทยที่บาเรนส่งพวกคนไทยที่วีซ่าหมดอายุและผู้หญิงไทยที่ขายบริการกลับเดือนธันวาคมปี 2549 และได้จำคำให้การไปฟ้องร้องดิฉันตามข้อหาทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
ดิฉันขอปรึกษา
1 ไม่มีพยานเลยจะทำอย่างไรดี เพราะทุกคนที่บาเรนก็ไม่อยากยุ่งเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย นอกจากคนในครอบครัวและแฟนชาวต่างชาติ
2 วันที่ 24 ก.ย 2550 ถ้าส่งใบแต่งทนายความกลับเมืองไทยไม่ทันจะมีผลอย่างไร
3 ต้องส่งกอฟปี้ วีซ่า และบัตรประชาชนบาเรนสำรอง เป็นเอกสารให้ทางทนายด้วยหรือไม่ และต้องเซ็นต์ชื่อกำกับหรือไม่
4 สํญญาหมดปี 2009 เพิ่งกลับเมืองไทยเดือนเมษายน 2550 นายจ้างให้กลับได้อีกครั้งประมาณต้นปีหน้าแต่ว่ายังไม่กำหนดให้กลับเดือนไหนจะทำยังไรดี
5 เป็นคำเบิกความในศาลของดิฉันซึ่งทนายดิฉันและทนายฝ่ายโจทก์และศาลถาม ตอบ ดิฉันมีความผิดอย่างไรบ้าง
6 อาจารย์ช่วยแนะนำทางที่ดีและถูกต้องให้หน่อยค่ะ
ดิฉันกลัวตกงานมากเพราะว่าถ้ากลับเมืองไทยบ่อย ๆ นายจ้างจะหาคนงานใหม่กลุ้มใจมาก ๆ
ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำปรึกษาที่ดี |