เรียน คุณมีชัย
ตอนนี้คุณแม่มีเรื่องถูกแจ้งความข้อหาเช็คเด้งกับเจ้าหนี้นอกระบบจากการสั่งจ่ายเช็คเพื่อค้ำ
ปะกันสัญญาเงินกู้ โดยมีการกู้ยืมเงินเงินต้น 212,000 ตั้งแต่ปี 43-47 เรื่อยมาทุกเดือน
โดยเจ้าหนี้คิดอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี จากการกู้ยืมดังกล่าวเจ้าหนี้เพิ่งจะมาทำสัญญาเมื่อ
มิ.ย.49 โดยเจ้าหนี้ระบุยอดเงินกู้รวมดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินจำนวน 360,789 บาท เรามีการชำระหนี้เงินกู้แล้ว 120,000 บาท (เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ย+ต้น 480,789)เมื่อธ.ค.49 ด้วยความที่คุณแม่กลัวเจ้าหนี้จะแจ้งความเอาผิดว่าไม่ชำระหนี้จึงยอมเซ็นสัญญาดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหนี้ให้เขียนเช็คค้ำประกันจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 180,000 บาท ซึ่งแม่เป็นเพียงเกษตรกรที่ไม่มีความรู้เรื่องความผิดเกี่ยวกับการสั่งจ่ายเช็คเลย แล้วคุณแม่ก็บอกเจ้าหนี้แล้วว่ายังไม่มีใช้ให้เพราะว่าเป็นยอดเงินที่สูงมากสำหรับเกษตรกรอย่างเรา ประกอบกับคุณพ่อป่วยไม่สามารถทำงานได้ เจ้าหนี้ก็ยังยืนยันให้เขียนเช็ค ตอนนี้เจ้าหนี้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็เห็นว่าเป็นคดีที่ยอมความกันได้และไม่เห็นด้วยกับที่เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยมากขนาดนั้น อยากทราบว่าเราจะยอมให้เจ้าหนี้ฟ้องร้องดีหรือเปล่าคะ เพราะว่าเค้ายื่นระยะเวลามาให้ถึงสิ้นเดือนส.ค.50 เพื่อหาเงินมาชำระหนี้ ซึ่งเราไม่มีเงินมากขนาดนั้นค่ะ แล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการพาคุณพ่อมารักษาดวงตาที่กรุงเทพทุกเดือน
เรียน Pim
ถ้าสู้คดีดี ๆ ก็อาจไม่ต้องรับผิดมากมายถึงเพียงนั้น และอาจไม่มีความผิดเกี่ยวกับเช็คได้ แต่ต้องหาทนายความให้เขาดำเนินการให้ หรือถ้าไม่มีเงินก็ควรไปติดต่อกับอัยการที่จังหวัดเพราะเขามีแผนกช่วยเหลือประชาชนอยู่ เขาอาจหาทางช่วยได้