เรียน ท่านมีชัย
เมื่อปี 2545ดิฉันได้ซื้อโทรศัพท์มือถือระบบรายเดือน ซึ่งเป็นชื่อดิฉัน ตอนหลังไห้สามีใช้ เลยไม่ได้ไส่ใจ สามีเป็นข้าราชการ แต่เราอยู่คนละที่ ต่อมา 2546 จับได้ว่าสามีติดหมอนวด เลยขอหย่า ดิฉันก็ตกงาน ลำบากมากตอนนั้น ดิฉันไม่มีที่อยู่แน่นอน เวลา จดหมายทวงหนี้มาเราเลยไม่รู้ และสามีตัวแสบยังค้างเงินค่าโทรศัพอีก 7000 บาท เมื่อปี 2546 มีจดหมายทวงหนี้มาตลอดรู้สึกเจ็บใจเพราะเราไม่ใด้ใช้ ตอนหลังก็มีจดหมายขู่ว่าถ้าไม่จ่ายจะดำเนินคดี และจะมีหมายศาลมาทำนองนั้น แม่ก็บอกไปรษณีว่า ลูกไม่ได้อยู่ที่บ้านไม่ต้องส่งมา เพราะดิฉันไม่ได้อาศัยอยู่กับท่านจริง อีกอย่างไม่อยากให้แม่เดือดร้อน
นี่ก็เกือบ 5ปีแล้วก็ไม่เห็นจดหมายทวงอีกเลย แต่เมื่อปีที่แล้วดิฉันกลับไปเที่ยวเมืองไทย และต้องการใช้โทรศัพเลยสมัครอีกและเป็นของบริษัทเดิม ดิฉันคิดว่าเนแบบโปรดมชั่นไม่แพงเลยสมัคร แต่ไม่ผ่าน บอกว่ามียอดค้างชำระ ดิฉันก็เลยเอะใจ
1 บริษัทมือถือ เอไอเอส จะฟ้องร้องเราได้ใหม เราจะมีความผิดยังไง และอายุความกี่ปีกรณีเราไม่จ่าย?
2ทำยังงัยดีคะโทรศัพท์เราก็ไม่เคยได้ใช้ แถมจดหมายทวงหนี้มาหาเรา ตอนนี้โทรศัพท์ก็ไม่มีแล้ว หลังจากเลิกกันดิฉันก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย อีกอย่างดิฉันก็แต่งงานใหม่แล้ว และอยู่ต่างประเทศ?
3 ดิฉันควรจะติดต่อบอกเขาดีไหม หรือจะปล่อยไห้เรื่องมันเงียบไปเอง ตอนนี้เขาตามเราไม่เจอ แล้วอนาคต เงินมันจะสูงขึ้นเรื่อย หรือเปล่า?
4 เรา ควรติตต่อ เอไอเอส ดีไหมคะ ไม่สบายใจเลย เพราะไม่เคยติดหนี้ใคร?
ขอบคุณค่ะ
เรียน คุณน้ำ
1. ตราบเท่าที่คุณยังเป็นเจ้าของเครื่องและมีคนใช้เครื่องนั้น เขาก็ฟ้องเรียกให้ชำระหนี้ได้ แต่โดยปกติเมื่อไม่ชำระมาก ๆ เข้าเขาก็คงตัดสายไปแล้ว ทางที่ดีควรมีหนังสือแจ้งบอกเลิกรับบริการเสียให้เรียบร้อย
2. ใช้บริการของบริษัทอื่นซี
3.-4. จะไปบอกเขาก็ไม่เกิดประโยชน์ ควรบอกเลิกกับบริษัทดีกว่า