เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ

ตามที่ข้าพเจ้าเคยถามคำถามแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2550 ความเดิมคือ

คุณตากับคุณยายจดทะเบียนสมรสกับตามกฎหมาย โดยไม่มีบุตร คุณยายมีบุตรติดมาจากสามีเก่าจำนวน 4 คน เมื่อประมาณปี 2548 คุณตาเสียชีวิตลง ลูกคนหนึ่งของคุณยาย ได้ยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก ขณะกำลังขึ้นศาลน้องสาวของคุณตาได้ขอคัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วม (คุณตามีพี่น้อง 9 คน เสียชีวิตแล้ว 5 คน) ซึ่งศาลเห็นตามคำคัดค้าน จึงอนุมัติให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วม 2 คน คือ ลูกคุณยาย และ น้องสาวคุณตา

ผู้จัดการมรดกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ   ลูกคุณยาย (นายเอ็ม) และ น้องสาวคุณตา (นางน้อย) โดยน้องชาย และน้องสาวคุณตาอีก 3 คนที่เหลือ มีหนังสือให้ความยินยอม ให้นางน้อยเป็นผู้จัดการทำธุรกรรมแทนตนเองในการขายที่ดิน ลงนามเปลี่ยนชื่อ รวมทั้งรับเงินทรัพย์มรดกในส่วนของแต่ละคนด้วย พร้อมถ่ายบัตรประชาชนของแต่ละคนแนบไว้กับหนังสือให้ความยินยอม

ปลายปี 2549 ผู้จัดการมรดกร่วม ทำการขายที่ดิน และได้เงินมาจำนวน 5,000,000 บาท โดยแบ่งเงินมรดกกันคนละครึ่ง ส่วนหนึ่งมอบให้นายเอ็ม 2,500,000 และอีกส่วนนางน้อยรับไป 2,500,000 และเซ็นรับเงินไว้เป็นหลักฐานว่า จะเอาเงินส่วนนี้ไปแบ่งให้กับทายาทโดยธรรม อีก 3 คนต่อไป

ปี 2550 นายโอ ซึ่งเป็นน้องของคุณตา ติดต่อมากับผู้จัดการมรดกร่วมว่า คุณตามีหนี้สิน เป็นหนังสือกู้ยืมเงินกับตน จำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ต้องการให้ผู้จัดการมรดกจ่ายหนี้สินดังกล่าว โดยบอกว่า ถ้าตกลงกันไม่รู้เรื่อง ต้องไปคุยกันที่โรงพัก

จากเหตุการณ์ข้างต้น ทางนายเอ็ม ได้ยอมไปตกลงกับฝ่ายนางน้อยและพวกที่โรงพัก โดยยินยอมจ่ายเงินที่คุณตาเป็นหนี้ให้ครึ่งนึง พร้อมลงบันทึกประจำวันต่อตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากมีปัญหาและเห็นแก่คุณตาที่เสียชีวิตไปแล้ว

ณ วันนี้มีประเด็นใหม่ คือ นายโอได้แย้งว่า สัดส่วนการแบ่งมรดกไม่ถูกต้อง เนื่องจากคุณตาซื้อที่ดิน เมื่อปี 2500 แต่คุณยายแต่งงานกับคุณตา เมื่อปี 2510 (สัดส่วนการแบ่งมรดก คือ คุณยายได้ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งนึง น้องคุณตา 4 คนแบ่งกัน)

คำถาม คือ

1)    สัดส่วนการแบ่งมรดกถูกต้องหรือไม่ ถ้าคุณตาแต่งงานกับคุณยายหลังจากซื้อที่ดิน เพราะนายโอ อ้างว่า ต้องเอามรดกทั้งหมดว่ารวมกันและแบ่งเป็นห้าส่วน ทุกคนได้เท่ากัน ไม่ใช่คุณยายได้ไปครึ่งนึง (ในฐานะคู่สมรส)

2)     คดีเกี่ยวกับมรดกเป็นคดีทางแพ่ง หรือ คดีอาญา

3)     การฟ้องร้องผู้จัดการมรดกในกรณีนี้ ทำได้หรือไม่ อย่างไร

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ชมพู

อ่านแล้วเวียนหัว ตอบไม่ถูก เรื่องยุ่งเกินกว่าที่จะตอบกันทางนี้ได้ ควรหารือกับทนายความจะดีกว่า