ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    022752 การขายทอดตลาดภาวิณี27 กรกฎาคม 2550

    คำถาม
    การขายทอดตลาด

    สวัสดีค่ะอ.มีชัย หนูอยากจะปรึกษาค่ะเป็นเรื่องของแม่หนู แม่กับพ่อใช้ที่ดินประมาณ 80 กว่าไร่ กับบ้าน 1 หลัง ค้ำประกันกับธนาคารกรุงไทย วงเงินหนึ่งล้านบาท ภายหลัง พ่อ แม่หนูเลิกกันเลยแบ่งหนี้กันคนละครึ่ง และทั้งสองขาดส่งเงินให้กับธนาคาร  ขณะนี้แม่หนูมีหนี้ประมาณเกือบ 3 ล้าน ส่วนพ่อหนูได้พูดไกล่เกลี่ยกับธนาคาร และปลดชำระหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่แม่หนูยังคงเป็นหนี้อยู่ ก่อนหน้านี้ธนาคารพูดกับแม่ว่า ให้แม่ยอมความ เพราะบ้านได้ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว แต่แม่หนูไม่ยอมปล่อยเพราะมันมีความไม่ชอบธรรมคือ

    1. ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เอกสารมาถึง 1 อาทิตย์ก่อนการประมูล

    2.  มีเด็กที่ทำงานธนาคารไม่ชอบแม่หนู จึงแนะนำให้ญาติมาซื้อเหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง

    3.ทรัพย์สินที่คำประกันมากกว่าจำนวนที่เป็นหนี้ แต่มันมากเพราะดอกเบี้ย

    4.หลังการขายได้ไปพูดกับธนคาร ธนาคารพูดว่าให้ยอมความเรื่องบ้าน คือปล่อยบ้าน แล้วหนี้ทั้งหมดหายกันไป

    แม่หนูไม่ยอมปล่อยเพราะเป็นบ้านที่อยู่อาศัย และประกอบอาชีพได้ที่เดียว  

    ก่อนการประมูลทนายสมบัติ บอกแม่ว่าไม่ได้ต้องไปคัดค้าน เค้าจะจัดการเอง ผลของวันนั้นคือมีคนซื้อในราคา 8 แสนบาทซึ่งหนูคิดว่าถูก ข้อนี้สู้คดีได้หรือไม่ ทนายพูดว่า เป็นช่องทางที่จะโต้ได้แบบว่าการขายไม่ถูกต้อง

    ตอนนี้แม่ถูกย้ายไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง และใบทะเบียนบ้านเปลี่ยนเป็นคนซื้อคนใหม่ แต่ยังอาศัยอยู่ที่บ้าน

    ก่อนหน้านานแล้วมีคนมาไล่ เหมือนให้ย้ายออกแต่แม่หนูไม่ยอยออก

    ขณะนี้เรื่องถึงศาลฎีกาแล้ว 2ศาลที่ผ่านมาแพ้

    ตอนนี้ฝ่ายทางนู้นได้คิดค่าเช่า ประมาณ7000 บาทต่อเดือน

    ถาม

    1. แม่หนูจะแพ้คดีไหมค่ะ และผลจากการแพ้คดี รวมถึง เรื่อง ค่าเช่าที่ฝ่ายนู้คิดต้องจ่ายไหมค่ะ

    2.มีโอกาสได้บ้านคืนไหมค่ะ  มีทางเลือกใดได้อีกที่จะรักษาบ้านไว้

    3.ระหว่างแม่กับธนาคารจะเป็นอย่างไรต่อไป

    4.ระหว่างแม่กับคนซื้อคนใหม่

    5.มันจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหนค่ะ

    6.เงินที่ได้จากการขาดทอดตลาด8 แสนบาทนั้นจะนำมาหักที่เป็นหนี้อยู่ไหมค่ะ

    7. เป็นไปได้ไหมที่จะถูกฟ้งล้มละลาย มันสามารถเลี่ยงหนี้ได้จริงรึเปล่าค่ะ และหากพ้น 3 ปี ถึงแม้หนี้จะมีอยู่ก็ไม่ต้องชำระหนี้อีกใช่ไหม

    *ช่วยแนะนำทางออกให้หนูด้วยค่ะ เพราะไม่มีใครหวังดีกับแม่หนูเลย นอกจากหนูแล้ว แม่ก็ไม่มีใคร

    *ความจริงมีรายละเอียดอีกเยอะค่ะ สำหรับหนูมันคงสำคัญทั้งหมด เพราะมันเป็นเรื่องราว หนูคงเล่าไม่ละเอียดเท่ากับเรื่องจริง ถ้าอ. สงสัย ถามหนูนะค่ะ

    ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

                                                                ความสุขที่วิเศษที่สุดคือการไม่เป็นหนี้ และใช้ชีวิตอย่างพอเพียงอย่างมีความสุข

    คำตอบ

    เรียน คุณภาวิณี

    1. ถ้าฟังดูเท่าที่เล่ามา ก็คงจะแพ้อีก

    2. เขาขายไปเป็นของคนอื่นแล้ว คงไม่ได้คืน

    3. ก็เป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กันต่อไปจนกว่าจะชำระหนี้เขาหมด

    4. วันหนึ่งเขาก็คงมาขับไล่

    5. นานเท่าที่ยังเป็นหนี้เขาอยู่

    6. เขาก็นำไปชำระหนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะชำระได้เพียงดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยเดินทุกวันและเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ คนส่วนใหญ่มักจะห่วงและหวงสมบัติไม่อยากขาย การเก็บสมบัติไว้พร้อมกับการเก็บหนี้ สมบัตินั้นไม่เพิ่มพูน แต่หนี้นั้นเพิ่มพูน ตอนใหม่ ๆ สมบัติจะท่วมหนี้ แต่พอนาน ๆ ไป หนี้ก็ท่วมสมบัติ ท้ายที่สุดจึงเสียสมบัติไป โดยหนี้ก็จะยังมีอยู่ บางทีก็มากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เพราะไม่มีอะไรงอกงามรวดเร็วเท่าดอกเบี้ย

    7. สุดท้ายก็อาจเป็นไปได้ที่เขาจะฟ้องล้มละลาย แต่มักจะเป็นภายหลังที่หมดทรัพย์สินให้ยึดแล้ว  ดังนั้นเมื่อล้มละลายแล้วแม้กฎหมายจะกำหนดให้มีระยะเวลาเพียง ๓ ปี แต่ถึงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    27 กรกฎาคม 2550