ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    022642 ใครเป็นผู้ผิดสัญญาจะซื้อจะขายกิตติกร มณีสว่าง19 กรกฎาคม 2550

    คำถาม
    ใครเป็นผู้ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย

    บริษัทบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งได้ทำหนังสือนัดโอนกรรมสิทธิ์ ลว.30 พ.ค.2550 เพื่อนัดข้าพเจ้าไปโอนกรรมสิทธิ์ในวันที่ 29 มิ.ย.2550 ซึ่งข้าพเจ้าได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.250 (ตามสัญญาจะต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน) แต่เนื่องจากบ้านซึ่งข้าพเจ้าได้ทำสัญญาไว้นั้นยังไม่แล้วเสร็จ และได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2550 เพื่อลงนามการตรวจสอบบ้านไว้เป็นหลักฐาน และข้าพเจ้าได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ทราบด้วยวาจา ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถเลื่อนนัดโอนกรรมสิทธิ์ให้ได้ จึงไม่ได้ไปตามนัด   หลังจากนั้นบริษัทฯ ได้ทำหนังสือ ลว.16 ก.ค.2550 นัดให้ไปโอนกรรมสิทธิ์เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 ก.ค. 2550 (การนัดครั้งนี้แจ้งล่วงหน้าน้อยกว่า 30 วัน) ข้าพเจ้าจึงไปตรวจสอบความก้าวหน้าของงานก่อสร้างอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.2550 พบว่า บ้านยังไม่เสร็จเรียบร้อย และได้ลงนามไว้เป็นหลักฐานการตรวจสอบบ้าน และตั้งใจจะทำหนังสือทักท้วง

    ข้อมูลสำคัญ
                1. บริษัทฯไม่ได้กำหนดวันโอนไว้ในสัญญาแต่ระบุว่าจะแจ้งให้ทราบเป็นทางการล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
                2. หากบริษัทผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้จะซื้อมีสิทธิยกเลิกสัญญาและเรียกเงินคืนได้
                3. การนัดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสองครั้ง บริษัทฯกำหนดขึ้นแต่ฝ่ายเดียวโดยที่ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนและไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดวัน ทุกครั้งที่บริษัทฯนัดโอนกรรมสิทธิ์ ข้าพเจ้ายังไม่ได้ลงนามในแบบฟอร์มหนังสือการตรวจสอบบ้านเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ เพราะบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์
                 4.จ่ายเงินค่าจอง 10,000 บาท เงินทำสัญญา 40,000 บาท และส่วนที่เหลือทั้งหมดจ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์

    ข้อซักถาม
                1.บริษัทสามารถนัดโอนสัญญา ทั้งๆที่บ้านยังไม่แล้วเสร็จได้หรือไม่
                2.การที่ไม่สามารถโอนบ้านได้ตามกำหนดในครั้งแรกทั้งๆ ที่บริษัทฯเป็นผู้กำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์ขึ้นเอง และการโอนกรรมสิทธิ์ล่าช้าเกิดจากบ้านไม่เสร็จสมบูรณ์ อันเป็นเหตุที่เกิดจากบริษัทฯ จะถือว่าบริษัทฯเป็นผู้ผิดสัญญาหรือไม่
                3. หากบริษัทฯเป็นผู้ผิดสัญญาในการนัดโอนครั้งที่ 1 การนัดโอนในครั้งที่ 2 ก็ไม่มีผลทำให้การผิดสัญญาครั้งที่ 1 นั้นหายไปใช่หรือไม่
                4.บริษัทฯสามารถทำหนังสือนัดโอนในครั้งที่ 2 โดยมีสิทธิแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบล่วงหน้าน้อยกว่า 30 วันได้หรือไม่ (การแจ้งครั้งที่ 1 อยู่ในเงื่อนไข 30 วัน)
                5.ข้าพเจ้าสามารถยกเลิกสัญญาและเรียกเงินคืนได้หรือไม่ และขั้นตอนควรทำอย่างไร


                                                               ขอแสดงความนับถือ
                                                                   กิตติกร มณีสว่าง

     

     


     

    คำตอบ

    1. เขาก็แจ้งให้ทราบล่วงหน้า 30 วันแล้วไม่ใช่หรือ

    2. เมื่อคุณไปตรวจดูบ้านแล้ว ก็พึมพำกับเจ้าหน้าที่ ไม่ได้แจ้งให้เขาทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เขาก็คงนึกว่าคุณเห็นดีเห็นงามว่าเสร็จแล้วน่ะซี

    3. การนัดโอนนั้น ผู้ขายเขาย่อมมีสิทธินัดโอนตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาได้ คือ เมื่อบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน  ส่วนการที่คุณเห็นว่าบ้านยังไม่เสร็จจึงไม่อาจโอนได้ คุณก็ต้องแจ้งให้เขาทราบเป็นหนังสือ เพื่อจะได้รักษาสิทธิของคุณไว้

    4. เขาถือว่าการนัดโอนครั้งแรกถูกต้องแล้ว การนัดครั้งที่สองเป็นการเตือนเพื่อให้โอกาส

    5. ถ้าคุณเห็นว่าเขาผิดสัญญา เช่น สร้างไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ก็อาจบอกเลิกสัญญาได้  แต่เวลาจะบอกเลิกก็ต้องทำให้ถูกต้อง คือจะไปเที่ยวได้พูดกับพนักงานของเขาเฉย ๆ โดยนึกว่าบริษัทต้องรู้นั้น ไม่ได้  ต้องทำเป็นหนังสือบอกให้บริษัทรู้ว่าบริษัทผิดสัญญาอย่างไร (ทำเป็นหนังสือส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ) และถ้าบริษัทผิดจริง คุณก็เรียกเงินมัดจำคืนได้

    การจะรักษาสิทธิที่มีอยู่นั้น ก็ต้องทำให้ถูกต้องถึงจะมีทางสู้กับเขาได้ในเวลาที่เป็นคดี


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    19 กรกฎาคม 2550