ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    022377 เรื่องการเบิกเบี้ยเลี้ยงการเดินทางไปราชการหมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม28 มิถุนายน 2550

    คำถาม
    เรื่องการเบิกเบี้ยเลี้ยงการเดินทางไปราชการ

    กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพนับถืออย่างสูง

        สวัสดีครับอาจารย์มีชัย ผมยังระลึกถึงเสมอครับ ผมเฝ้าติดตามการทำงานของสภาฯและฝ่ายต่างๆเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยความชื่นชมยินดี แม้อาจมีติดๆขัดๆในหลายเรืองแต่ก็เพื่อจะใด้รัฐธรรมนูญที่ดี ทุกคนหวังใว้อย่างนั้น (ดูเหมือนทุกท่านทำงานอย่างเสียสละเอาจริงเอาจังอย่างที่สุดแม้บางทีหลงทางสุดขั้วบ้างแต่เจตนาดีเพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางใว้)

     ผมมีเรื่องเรียนปรึกษาอาจารย์ว่าด้วยเรื่องการเบิกเบี้ยเลี้ยงการเดินทางของ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลวิชาชีพ ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดังนี้ครับ

     เนื่องจาก 4 กลุ่มวิชาชีพดังกล่าวจะมีเงินเพิ่มพิเศษคือขึ้นกับตามพื้นที่เสี่ยงภัยและทุรกันดารแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับ 1 แพทย์ ทันตแพทย์ ใด้รับ 10000 บาทต่อเดือน เภสัชกรได้รับ 5000 บาทต่อเดือน และพยาบาลได้รับ 1000 บาทต่อเดือน ถ้าเป็นพื้นที่ระดับ 2 (เสี่ยงภัยมากหรือกันดารมาก)จะใด้รับ 2 เท่าของระดับ1 นอกจากนั้นยังมีเงินเพิ่มอีกเพื่อสร้างแรงจูงใจไห้ปฏิบัติในพื้นที่ 3 จังหวัดเพิ่มอีกโดย แพทย์ ทันตแพทย์ 10000 บาทต่อเดือน เภสัชกร 5000 บาทต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพ 1000 บาทต่อเดือน ทั้งหมดมีเงื่อนไขว่าจะต้องปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 15 วันทำการในแต่ละเดือนจีงมีสิทธิสามารถเบิกรับเงินดังกล่าวนั้นได้ และ เงินได้รับทั้งหมดถือเป็นเงินได้ก็นำไปคำนวนเสียภาษีกันทุกคนตลอดที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่าในการเดินทางไปราชการ (ประชุม อบรม เป็นวิทยากร ๆลๆ) ที่ผ่านมาตลอด 5 ปีกล่มวิชาชีพดังกล่าวเมื่อเบิกเงินไปราชการก็จะเบิกเบี้ยเลี้ยงการเดินทางไปราชการตามระเบียบราชการ(ผมในฐานะ ผอก.รพ ก็อนุมัติมาตลอด) เมือผมเองต้องเบิกเงินการเดินทางไปราชการก็ต้องส่งไปจังหวัด(นายแพทย์ สสจ.)เป็นผู้อนุมัติ (ประชุม 2 วันเบี้ยเลี้ยงวันละ 180 บาทเป็นเงิน 360 บาท+ค่าทีพักค่าเดินทางรวมก็ 1360 บาท) บังเอิญว่านายแพทย์ สสจ.เพิ่งย้ายมาจากจังหวัดอื่นไม่อนุมัติเนี่องจากให้เหตุผลว่าใด้รับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเป็นการประจำอยู่แล้วและที่จังหวัดเดิมที่ท่านอยู่ก็ไม่เบิกกัน จริงแล้วๆเรื่องนี้เมื่อปี2545 ทางจังหวัดได้มีการหารือทางกระทรวงแล้วทางปลัดกระทรวงแจ้งว่าสามารถเบิกได้เพราะเป็นเงินคนละประเภก แต่ทาง สสจ.ซึ่งมี นืติกรประจำ สสจ.ก็อ้างว่าที่เบิกมาไม่ถูกต้องเนื่องจากไห้ยึดตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าเมื่อได้รับเงินเพิ่มแล้วก็ไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางได้อีก จึงได้นำประชุมคณะกรรมการบริหารจังหวัด ก็มีการถกเถียงตีความกันจึงยังไม่มีข้อยุติแต่มี มติไห้เบิกอนุมัติเหมือนเดิมไปก่อนแล้วจะหารือกระทรวงอีกครั้ง ผมเองไม่ค่อยถนัดในเรืองการตีความทางกฎหมาย ความเห็นส่วนตัวน่าจะเบิกใด้เพราะเป็นเงินคนละหมวด เงินเบี้ยเลี้ยงไม่เคยมีใครนำมาคำนวนภาษีกัน และอีกกรณีคือการที่ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ไป ประชุมอบรมโดยแจ้งรายชื่อถ้าไปประชุมหลายวันก็จะทำงานไม่ครบ 15 วันทำการก็จะไม่มีสิทธิเบิกเงินเสี่ยงภัย(แพทย์ ทันตแพทย์ ตกเดือนละ 30000 บาท)ก็ไม่มีใครไป เมือไม่ไปก็ขัดคำสั่งผิดวินัยราชการอีก เดิมทียังอลุ่มอล่วยภ้าถูกสั่งไปให้นับเป็นวันทำการ การยึดหลักกฎหมายเคร่งครัดก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ความเดือดร้อนหลักเรืองนี้ตกในกลุ่มพยาบาลวิชาชีพเพราะรายได้น้อย กลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรไม่เดือดร้อนมากเพราะรายได้มากอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าที่เบิกมาก่อนหน้านี้หลายปีถูกเรียกคืนเพราะผิดระเบียบ ทีเขียนมายาวเยียดนี้ อยากไห้อาจารย์มีชัย ช่วยออกความเห็นว่าจริงๆแล้วทีถูกต้องเป็นอย่างไร ถ้ามันผิดจริงก็คงกระทบอีก 2 จังหวัดคงเดือดไปทั่ว 3 จังหวัดโดยเฉพาะพยาบาลวิชาชีพ และอีกกรณีที่ถูกสังไห้ไปประชุมแล้ววันทำงานไม่ครบ 15 วันทำการจะทำอย่างไร

     จึงเรียนมาปรึกษาหาทางออกที่ดีที่สุดและให้ถูกต้องตามระเบียบราชการเพื่อความสบายใจในปฏิบัติราชการในพื้นที่ๆสุดอันตรายไม่ปลอดภัยและต้องการขวัญกำลังใจอย่างมาก.....

     สุดท้ายนี้ขอให้คุณงามความดีทั้งหลายที่อาจารย์สร้างมาจงทำให้อาจารย์มีสุขภาพดี แข็งแรง มีความสุขในการทำงานตลอดไปครับ

                       ด้วยความเคารพนับถืออย่างสูง

                          หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม

    คำตอบ

    เรียน หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม

         ถ้าเงินที่ทางราชการให้ให้เพิ่มเป็นเงินเพิ่มพิเศษอย่างที่คุณหมอว่ามาทั้งสองยอด เงินนั้นก็เป็นคนละยอดกับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทาง จึงไม่เกี่ยวกัน ทั้งเหตุแห่งการรับหรือจ่ายเงินนั้นก็เป็นคนละเหตุ กล่าวคือเงินรายเดือนนั้นเป็นเรื่องเพิ่มให้เป็นพิเศษในฐานะที่ต้องเสี่ยงภัย และแรงจูงใจให้อยู่ทำงาน ส่วนเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางนั้น รัฐจ่ายให้เพราะทางราชการจ่ายสั่งให้ไปทำการยังต่างท้องที่ซึ่งมีค่าเดินทางเกิดขึ้น และมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากที่ข้าราชการต้องมีอยู่ตามปกติ

            ดีใจที่ได้ข่าวคุณหมอ ขอให้คุณหมอและครอบครัวแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    28 มิถุนายน 2550