สวัสดีครับท่านอาจารย์มีชัย ขอคำปรึกษา เพื่อหาทางออก

      พนักงานอัยการยื่นฟ้อง จำเลยทั้งสอง ว่า...ร่วมกันฉ้อโกง.... หลายกรรม  ทุกทรัพย์ ๖ ล้านบาท  จำเลยให้การปฏิเสธ

      ชั้นสอบสวน ช้นพนักงานอัยการ..จำเลยทั้งสอง ไปตามนัด..ทุกนัด

      วันที่ยื่นฟ้อง..จำเลยทั้สองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีประกัน โดยอ้าง   ๑.  จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ 

        ๒. จำเลยที่ ๒ เป็นข้าราชการ

        ๓. จำเลยทั้ง สอง พักอยุ่บ้านพักข้าราชการ

           ศาล โดยผู้พิพากษานายหนึ่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า  จำเลยไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี

       ต่อมาวันนัดพร้อม.ตรวจพยานหลักฐาน......จำเลยทั้งสองไปตามที่ศาลนัด

     ผู้พิพากษา โดยผู้เป็นหัวหน้าศาล ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสอง ถูกฟ้อง หลายกรรม และทุนทรัพย์  สูง  จึงรับตัวจำเลยทั้งสองไว้หมายขังเว้นแต่มีประกันในทันที โดยที่มิได้มีคำสั่งเพิกถอน....คำสั่งเดิม.. และมิได้ทันตั้งตัวโดยเรียกหลักประกัน (๑ ล้าน)ต่อมาเหลือ ๕ แสน   )  จำเลยทั้งสองเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการเพิกถอนคำสั่งเดิม จึงเท่ากับ เป็นคำสั่งไม่อนุญาติให้ปล่อยชั่วคราว โดยปริยายจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ปล่อยชั่วคราวโดยปริยายดังกล่าว

     เมื่อยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว  ศาลสั่งรับอุทธรณ์  ส่งสำเนาให้โจทก์  โดยปิดหมาย

     จำเลยทั้งสองจึงโต้แย้งคำสั่งเกืยวกับการส่งสำเนาให้โจทก์  ทั้งนี้ กว่าจะส่งหมาย ได้และส่งอุทธรณ์ดังกล่าวให้ศาลใช้เวลานาน   (ซึ่งต่อมาจำเลยทั้งสองทราบว่า ศาลเห็นว่ามิใช่อุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราว )

     ต่อมาเนื่องจากจำเลยที่ ๒ เป็นข้าราชการหากถูกขังนานอาจจะถูกไล่ออกได้ ญาติจำเลยที่ ๒ จึงยื่น คำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกัน เป็นโฉนดราคาประมาณ  ๗ หมื่นบาทอีกครั้งหนึ่ง (ทั้งนี้ หากศาลไม่อนุญาติให้ปล่อย..เพราะหลักประกันน้อย จะได้ยื่นอุทธรณ์ใหม่..ได้ทั้นที..และอาจจะไม่มีปัญหาการส่งสำเนา)

    ปรากฎว่า ศาล สั่งว่า " ....อนุญาติให้ปล่อยชั่วคราว โดยมีประกัน ๕ แสนบาท" ....

  เรื่องราวมาถึงแค่นี้...

  จึงเรียนถามท่านอาจารย์มีชัยดังนี้

 ๑.  การรับตัว จำเลยทั้ง ๒ แล้วหมายขังทันทีนั้น... ถือเป็นการเพิกถอนคำสั่งเดิมโดยปริยายใช่หรือไม่.. และหากเป็นเช่นนั้น เท่ากับคำสั่งให้รับตัวจำเลย ไว้นั้น ก็จะกลายเป็น คำสั่งไม่อนุชั่วให้ปล่อยชั่วคราวใช่หรือไม่

๒. การที่รับตัวไว้หมายขังทันทีนั้น อุทธรณ์ทันทีได้หรือไม่

๓.  การอูทธรณ์ดังกล่าว นั้น จะต้องส่งสำเนาให้โจกท์ ด้วยหรือไม่ (หรือควรส่งหรือไม่)

๔ เมื่อยื่นคำร้องฉบับที่  ๒ เข้าไปนั้น คำสั่งของศาลที่สั่งว่า "อนุญาติให้ปล่อยชั่วคราวโดยมี ประกัน ๕ แสน  " ทั้งที่เสนอ ไปเพียง ๗ หมื่น นั้น  คำสั่งดังกล่าว ถูกต้องหรือชอบด้วยกฎหมายหรือไม่... และจะอุทธรณ์ได้หรือไม่

๕.   ท่านอาจารย์ มีชัย มีความเห็นอย่างไรในกรณีดังกล่าวข้างต้น และ มีคำแนะนำประการใด เพื่อให้..สำนวนความขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์โดยด่วน...หรือทางออกทางอื่น  เพราะหากเนิ่นช้าไป จำเลยที่ ๒ อาจจะต้องถูกไล่ออกจากราชการ...ทั้งที่เป็นข้าราชการมาแล้ว ยี่สิบกว่าปี   (และจากการตรวจสอบ จำเลยที่ ๒ มิได้กระทำความผิด)

  เรียนมาเพื่อ ปรึกษาทานอาจารย์มีชัย...เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ.ปลดทุกข์ให้แก่ชาวบ้าน...

ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ เป็นอย่างสูง

   ศิลป์