สามีผู้ตายไปยื่นขอโอนรับมรดกอาวุธปืน (แบบ ป.4) ที่ที่ว่าการอำเภอ โดยแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนอาวุธปืนว่าผู้ตายไม่มีทายาทอื่นอีกแล้ว (ทั้งที่ความเป็นจริงผู้ตายยังมีน้องชายอยู่) เวลาต่อมาสามีผู้ตายได้ยื่นขอให้ศาลแต่งตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย โดยระบุยอมรับในบัญชีเครือญาติว่าผู้ตายมีน้องชายอยู่ 1 คน และมีสิทธิ์ในกองมรดกของผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้งสามีเป็นผู้จัดการมรดก เจ้าหน้าที่ทะเบียนอาวุธปืนที่ที่ว่าการอำเภอได้โอนมรดกอาวุธปืน (ป.4) ให้เป็นชื่อของสามี ต่อมาสามี (ผู้จัดการมรดก) ได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก โดยระบุว่าอาวุธปืนเป็นรายการหนึ่งในกองมรดกด้วย และแจ้งแบ่งปันทรัพย์มรดกให้น้องชายผู้ตายทราบ โดยสามี (ผู้จัดการมรดก) ได้แบ่งปันอาวุธปืนให้เป็นของตนเองโดยอ้างว่าแบ่งปันตามสิทธิ์ในส่วนที่ตนเองควรได้รับ ซึ่งน้องชายผู้ตายไม่เห็นชอบด้วยในการแบ่งปันดังกล่าว และได้ตรวจสอบการโอนมรดกอาวุธปืนกับที่ว่าการอำเภอ ก็พบว่าสามีผู้ยได้โอนมรดกปืน (ป.4) เป็นชื่อของตนเองก่อนที่ศาลจะแต่งตั้งสามีเป็นผู้จัดการมรดก และการที่สามีผู้ตายได้รับโอนก็เพราะการแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนฯว่าผู้ตายไม่มีทายาทอื่นอีก อีกทั้งน้องชายผู้ตายยังไม่ยอมรับการแบ่งปันมรดกอาวุธปืนให้เป็นของสามีผู้ตาย จึงอยากรบกวนถามท่านอาจารย์ว่าการกระทำการโอนอาวุธปืนของสามีผู้ตายเป็นการยักยอกทรัพย์มรดกหรือไม่? และควรดำเนินการอย่างไรกับสามีผู้ตาย (ผู้จัดการมรดก)
ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นการยักยอกมรดก เพราะเขาได้แจ้งรายการปืนไว้ในกองมรดกด้วยแล้ว แต่ถ้าเขาได้รับไปเกินส่วนที่เขาควรจะได้รับ ก็เป็นเรื่องที่ทายาทอื่นอาจขอให้แบ่งให้ตามสิทธิได้