ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    022128 การกู้ร่วม เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร กับ การค้ำประกันดำรง12 มิถุนายน 2550

    คำถาม
    การกู้ร่วม เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร กับ การค้ำประกัน

    การกู้ร่วม เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร กับ การค้ำประกัน

    มีรายละเอียดอะไรบ้าง  ที่ต่างกัน

    แต่ถ้าเหมือนกัน ทำไม เรียกต่างกัน

    ขอบคุณครับ

    คำตอบ

    การกู้ร่วมก็คือการเอาตัวเข้าเป็นลูกหนี้โดยตรง หรือเป็นคนกู้โดยตรง  บางคนกู้ร่วมกันได้เงินแล้วก็มาแบ่งกัน ตามส่วนที่ตั้งใจจะกู้ แต่ก็ยังโง่อยู่ดี เพราะแทนที่จะต้องรับผิดเฉพาะส่วนที่ตัวเองได้มา เมื่อไปเป็นคนกู้ร่วมกับคนอื่น จึงต้องรับผิดรวมถึงเงินที่คนอื่นได้ไปด้วย   แต่บางคนก็โง่กว่านั้น คือเอาตัวเองไปกู้ร่วมกับคนอื่นเพื่อช่วยเหลือเขาโดยตัวเองไม่ได้เงิน แต่ก็มีฐานะเป็นลูกหนี้โดยตรงทั้งจำนวนที่เขากู้มา    ส่วนการค้ำประกันนั้นเป็นการโง่ถึงที่สุด คือ ไมได้ไม่ดีอะไรกับเขา แต่ต้องไปคอยรับผิดในหนี้ที่คนอื่นเขาไปก่อไว้หรือไปเป็นหนี้ไว้ เมื่อใดที่ลูกหนี้เขาไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็มาเอาจากผู้ค้ำประกันได้ ความโง่ดังกล่าวอาจจะเกิดจากความจำเป็น เช่น ไปค้ำประกันให้พ่อแม่ หรือพี่น้อง หรือสามีหรือภริยา ในกรณีเช่นนี้อาจไม่ใช่ความโง่ แต่เป็นความเคราะห์ร้ายเสียมากกว่า  แต่ที่โง่สุด ๆ คือ ไปค้ำประกันเพราะความใจอ่อน หรือเพราะกลัวคนเห็นว่าไม่แน่จริง หรือเพราะความเกรงใจ หรือเพราะเห็นว่าเป็นเรื่อง "นิดหน่อย"  (ในเวลาที่คนมาขอให้ลงชื่อค้ำประกันนั้น มักจะพูดด้วยสำนวนเดียวกัน คือ ช่วยลงชื่อให้"หน่อย") เมื่อค้ำประกันเขาไปแล้วจึงไม่มีบุญคุณต่อกันนัก เพราะเป็นเรื่อง "หน่อย"เดียวในสายตาของคนที่มาให้เซ็นต์ และคนเซ็นต์ก็คงเห็นว่าเป็นเรื่อง "หน่อย" เดียว จึงเซ็นต์ให้ไป รวมความว่า ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรที่จะต้องไปจดจำ  แต่ผลสุดท้ายมักจะ"เจ็บแสบ" ที่สุด ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะจดจำไว้ตลอดชีวิต แต่บางคน ก็ไม่ได้จดจำ ใครมาให้เซ็นต์ก็เซ็นต์อีก คนประเภทนี้เรียกว่า "โง่ซ้ำซาก"

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    12 มิถุนายน 2550