ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    021980 เรียน ปรึกษาอาจารย์ ครับนาย ธงชัย ไทรบุญจันทร์1 มิถุนายน 2550

    คำถาม
    เรียน ปรึกษาอาจารย์ ครับ

    เรียน ปรึกษาอาจารย์ ดังนี้ครับ
    เมื่อปี 2538 พ่อผมได้เข้ามาทำนาต่อจากผู้เช่ารายแรกซึ่งเป็นญาติกันโดยเจ้าของนาคนปัจจุบันก็รับทราบและไม่ได้ว่าอะไรเพราะญาติของผมท่านอายุมากแล้วครับแต่ปัญหาเกิดจากผู้เช่านาค่างเคียงที่ได้ขุดทางน้ำเป็นคูดินเข้ามาในพื้นที่นาที่พ่อผมได้เช่าต่อไว้เพื่อเชื่อมกับคลองส่งน้ำของชลประทานที่ทำเป็นคลองคอนกรีตขนาดเล็กโดยเขาได้ทำการขุดและขออนุญาตไว้กับเจ้าของนารายแรกก่อนที่จะขายเปลี่ยนมือมายังเจ้าของนาคนปัจจุบันซึ่งเจ้าของนาคนปัจจุบันก็ไม่ทราบว่ามีการขุดทางน้ำไว้ใช้ในกรณีดังกล่าวครับเพราะผืนนาที่พ่อผมเช่าและของผู้เช่านาข้างเคียงสามารถใช้น้ำจากคลองสาธารณะที่อยู่ติดแปลงนาทั้งสองได้และพ่อผมก็ใช้น้ำในคลองสาธารณะดังกล่าวมาโดยตลอดและไม่เคยใช้น้ำในทางชลประทานเลยครับ   โดยช่วงที่พ่อผมเช่าทำนาผืนดังกล่าวก็ประสบปัญหาจากการที่น้ำจากคูดินดังกล่าวไหลลงมาสร้างความเสียหายในพื้นที่นาผืนที่พ่อผมเช่ามาโดยตลอดโดยทางพ่อผมก็แจ้งเป็นวาจาเพื่อให้รับทราบและเร่งแก้ไขในกรณีดังกล่าวแต่ก็ได้รับการเมินเฉยมาโดยตลอดซึ่งทำให้พ่อผมจะต้องเป็นคนมาอุดคูน้ำที่เป็นคันดินเองและคอยรอกคูน้ำไม่ให้ตื้นเขินเพราะไม่เช่นนั้นน้ำจะเอ่อล้นเข้ามาในนา  จนมาถึงปี 2548 พ่อผมได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของนาโดยตรงซึ่งพ่อผมก็ได้ดำเนินการแจ้งความเก็บเป็นหลักฐานทุกครั้งที่ได้รับความเสียหายจากการผ่านน้ำดังกล่าวเพราะพ่อผมอายุมากแล้วไม่สามารถมาดูแลทางน้ำนี้ได้ตลอดซึ่งคูน้ำที่ผู้เช่านาค่างเคียงขุดเข้ามาจะผ่านกลางนาและเป็นคูดินโดยบนคูดินพ่อผมได้ทำการปลูกต้นมะพร้าวไว้และบริเวณซ้ายขวาก็ได้ดำเนินการปลูกข้าวมาโดยตลอดและทราบมาว่าที่ผืนนี้ได้ทำการปลูกข้าวมาก่อนที่ผู้เช่านาค่างเคียงจะมาขอใช้พื้นที่ขุดคูน้ำเชื่อมกับคลองชลประทานครับ

    ผมมีคำถามรบกวนอาจารย์ดังนี้ครับ

    1).เมื่อกลางปี 2548 พ่อผมได้ปิดคูน้ำดังกล่าวเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3-4 วัน เพราะเพิ่งฉีดยาฆ่าแมลงลงไปจึงต้องปิดทางน้ำกันผู้เช่านาค่างเคียงวิดน้ำลงมาในคูดังกล่าวเพราะมิฉะนั้นน้ำจะไหลลงมาในนาและจะทำให้ยาฉีดใส่ลงไปในนาจะโดนน้ำชะล้างไปกับน้ำที่รั่วซึมลงมาได้ทำให้ผู้เช่านาผืนค่างเคียงไม่พอใจและได้ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ทำให้ข้าวในนาของเขาขาดน้ำตายกับทางพ่อของผมซึ่งโดยปกติแล้วการที่ต้นข้าวขาดน้ำเป็นระยะเวลาแค่ 3-4 วันไม่สามารถทำให้ต้นข้าวตายได้ครับแต่เขาเอาเหตุนี้อ้างแล้วปล่อยให้ต้นข้าวตายโดยไม่วิดน้ำผ่านคูน้ำดังกล่าวอีกหรือแม่แต่ทางคลองสาธารณะที่ติดกับผืนนาเช่าของเขาครับโดยช่วงระยะเวลาดังกล่าวพ่อผมให้น้องถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐานตั้งแต่ต้นข้าวยังเป็นต้นสีเขียวจนออกรวงและก็ล้มตายลงไปครับ(ถึงแม้ต้นข้าวอาจจะไม่สมบูรณ์นักเพราะผู้เช่านาค่างเคียงไม่ยอมดูแลอีกต่อไป)ซึ่งผมอยากเรียนถามว่าด้วยเหตุนี้พ่อผมจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้เช่าค่างเคียงหรือไม่ครับ? (โดยเท่าที่ทราบมาทางตำรวจไม่ได้รับแจ้งความเกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวที่เกิดขึ้นและทางผมก็มีพยานที่พร้อมจะเป็นพยานให้ครับว่าต้นข้าวขาดน้ำแค่ช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถทำให้ต้นข้าตายได้นอกจากเจตนาปล่อยให้ตายเพราะไม่ยอมวิดน้ำมาใช้ครับ)
    2).ทางพ่อผมสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ผู้เช่านาค่าเคียงวิดน้ำผ่านคูดังกล่าวและไม่ดูแลรักษาจนมีน้ำรั่วซึมลงมาได้หรือไม่ครับโดยทุกครั้งที่มีความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวจากผู้เช่านาค่างเคียงพ่อผมจะแจ้งความเก็บเป็นหลักฐานไว้ตลอดระยะเวลา 2 ปีและทางตำรวจรับแจ้งความไว้ครับไม่ว่าจะเป็นน้ำไหลซึมเข้านา,ตัดทางมะพร้าวที่ปลูกไว้บนคูดิน,ฉีดยาฆ่าหญ้าใส่ลงมาในนาแปลงของพ่อผมจนข้าวตายครับ
    3).ด้วยเหตุการณ์ลักษณะนี้ถือว่าคูน้ำดังกล่าวเป็นภาวะจำยอมหรือไม่ครับเพราะผู้เช่านาค่างเคียงใช้คูน้ำนี้มากอ่นที่พ่อผมจะเข้ามาทำนาต่อจากญาติซึ่งเกินกว่า 10ปีแล้วครับแต่เจ้าของนาปัจจุบันท่านก็ไม่ต้องการคูน้ำนี้ครับพราะตอนที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของนารายแรกก็เข้าใจว่ามีไว้เอื้อประโยชน์สำหรับผืนนาตน(ผู้เช่ารายแรก)เท่านั้นและที่ทราบนาผืนที่พ่อผมเช่าไว้เจ้าของก็ไม่ได้ทอดทิ้งแต่ได้ให้เช่าทำนามาโดยตลอดตั้งแต่เจ้าของรายแรกจนถึงเจ้าของคนปัจจุบันครับโดยเจ้าของนารายแรกเป็นผู้อณุญาตให้คุดคูน้ำผ่านเข้ามาเพื่อใช้เป็นทางน้ำเชื่อมกับทางชลประทานได้แต่ก็ไม่ได้อณุญาตให้ฝังท่อหรือทำเป็นทางน้ำคอนกรีตเหมือนทางสาธารณะครับและบนคูน้ำพ่อผมก็ปลูกต้นมาพร้าวไว้และดูแลมาโดยตลอดเป็นเวลา 5 ปีโดยที่ไม่รวมกับระยะเวลาที่ต้องคอยดูแลทางคูน้ำไม่ให้คอยรั่วไหลลงมาในนาที่พ่อผมเช่าตั้งแต่เริ่มเช่านาผืนนี้ประมาณ 2538 ครับ

    ปล:รบกวนอาจารย์ช่วยตอบคำถามผมด้วยนะครับผมสงสารพ่อผมที่ต้องทำงานหนักแล้วต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้จากคนเห็นแก่ตัวและหัวหมอครับเพราะผู้เช่านาค่างเคียงอ้างว่าคูน้ำนี้เป็นของเขาและไม่มีใครปิดได้ครับ

    ขอบคุณครับ

    นาย ธงชัย ไทรบุญจันทร์

    คำตอบ

    1. ถ้าคุณมีพยานยืนยันว่าการปิดทางน้ำเพียง 2-3 วันด้วยเหตุจำเป็นของทางฝ่ายคุณ ไม่ทำให้ข้าวเสียหาย  ฝ่ายคุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบ

    2. ความเสียหายที่ฝ่ายคุณได้รับนั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากการกระทำของเขา ก็ฟ้องได้ แต่มีอายุความเพียง 1 ปี อะไรที่เกิน 1 ปี ก็เรียกค่าเสียหายไม่ได้

    3. ทางน้ำนั้นเกิดขึ้นได้ก็โดยเจ้าของเขาอนุญาตให้ทำ ถ้าบัดนี้เจ้าของจะเปลี่ยนใจไม่อนุญาตก็ยกเลิกได้  แต่ในเวลาที่จะยกเลิกควรแจ้งให้เขาทราบล่วงหน้าอย่างน้อยก็ ๑ ฤดูเก็บเกี่ยว เขาจะได้เตรียมตัวทัน และควรแจ้งกับตำรวจเพื่อให้รับทราบไว้เป็นหลักฐานด้วย

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    1 มิถุนายน 2550