สวัสดีครับ อาจารย์ ปัญหาของผมคือ เมื่อปี 46 ผมได้ซื้ออาคารพาณิชย์จากกรมบังคับคดี แต่ผู้อาศัยเดิมไม่ยอมย้ายออก จึงได้ฟ้องขับไล่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยออก แต่จำเลยอุธรณ์ด้วยข้อกฏหมายว่ากรมบังคับคดีจำหน่ายทรัพย์มิชอบ ปัจจุบันเจ้าของเดิมยังอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว ล่าสุดทนายได้บังคับคดีให้จำเลยออกจากบ้านหลังดังกล่าว แต่กลับมีคำร้องขัด แจ้งว่าจำเลยได้ทำสัญญาเช่ากับบุคคลภายนอก โดยบุคคลผู้นั้นร้องขัดการบังคับคดี ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงจำเลยและบริวาร ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และมิได้ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าจริง และปัจจบันก็ยังไม่ทราบว่าผลการพิจารณาของศาลอุธรณ์จะแล้วเสร็จเมื่อใด ทั้ง ๆ ที่ศาลรับอุธรณ์นานกว่า 2 ปี อยากถามว่า
1.เนื่องจากปัจจุบันกฏหมายบังคับคดีใหม่ ที่ออกมาเมื่อกลางปี 48 ระบุว่าให้ผู้ซื้อทรัพย์สามารถยื่นคำร้องต่อศาลโดยไม่ต้องฟ้องขับไล่ หากผมจะดำเนินการบังคับคดีตามกฏหมายใหม่ โดยยื่นคำรองต่อศาล โดยไม่รอผลคำตัดสินของศาลอุธรณ์ จะกระทำได้หรือไม่ครับ
2.หากทำไม่ได้ อยากทราบว่า เหตุใดระยะเวลาในการรอคำตัดสินจึงนานมาก ทั้ง ๆ คำอุธรณ์ก็ไม่มีมูล และอาจารย์พอจะประมาณเวลาของการอุธรณ์ในคดีแบบนี้ในอดีตว่า จะรอนานสูงสุดกี่ปี คือผมกำลังจะแต่งงานครับ และไม่มีความสามารถในการไปซื้อทรัพย์อื่นอีก เพราะทรัพย์ที่ฟ้องร้องในปัจจุบันก็ผ่อนธนาคารอยู่
3.การบังคับคดีให้จำเลยเดิมย้ายออก จำเลยก็ทำเอกสารเท็จในสัญญาเช่า ว่าให้บุคคลอื่นเช่า ทั้งๆ ที่ปัจจุบันยังอาศัยอยู่ นับว่าเป็นการแจ้งข้อความเป็นเท็จชัด ๆ เราจะต้องทำอย่างไร และหากศาลต้องไต่สวน จะต้องกินเวลาอีกนานไหมครับ
1. คงทำไม่ได้หรอก เพราะคดีของคุณแตกลูกแตกหลานไปไกลแล้ว
2. ที่เขาเคยรอ ๆ กัน ๓ ศาลก็ประมาณ 4-5 ปี
3. ถ้ามีหลักฐานว่าเขาทำหลักฐานเท็จ ก็ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาต่อไปอีก