ปัจจุบันทำกิจการปั๊มน้ำมันอยู่ค่ะ วันหนึ่งมีลูกค้ารายหนึ่งมาบอกว่ามาเติมน้ำมันที่ปั๊ม หลังจากนั้นเครื่องยนต์ของรถที่เติมเกิดพัง ต้องเอาไปเข้าอู่ ทางอู่ที่นำรถไปซ่อมบอกว่าเกิดจากมีน้ำปนอยู่ในน้ำมันที่เติม จึงได้ดูดน้ำมันออกจากรถ และลูกค้ารายนี้ก็นำมาให้ทางปั๊มดู พอดีวันนั้นแฟนเป็นคนคุยกับลูกค้า จึงบีบน้ำมันจากหัวจ่ายเดียวกันกับที่ได้เคยเติมให้ลูกค้าดู และทำการตรวจสอบว่ามีน้ำปนอยู่หรือไม่ด้วย น้ำยาวัดน้ำที่ได้มาตราฐาน พร้อมกับพาไปดูที่ถังน้ำมันใต้ดินซึ่งเป็นที่บรรจุน้ำมันชนิดเดียวกันกับที่ลูกค้าได้เติมไป ผลคือไม่พบน้ำแต่อย่างใด
แต่ลูกค้ารายนี้ก็ยังยืนยันจะให้ทางปั๊มรับผิดชอบ แฟนก็เลยบอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับพี่ พี่ไปแจ้งตำรวจเลยดีกว่า เพราะผมมั่นใจว่าน้ำมันของผมไม่มีน้ำผสมอยู่แน่ อีกอย่างถ้าผมยอมรับ ก็เท่ากับว่าน้ำมันของผมมีน้ำผสมอยู่จริงนะสิครับ และรถของพี่มาเติมกับผมก็หลายวันแล้ว มีใครเอารถของพี่ไปใช้แล้วไปเติมน้ำที่อื่นมาหรือเปล่าครับ" จากนั้นทางเราก็เลยเอาน้ำมันของเราให้ลูกค้าไป เพราะเค้าบอกว่าจะเอาไปให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานตรวจดู เราก็ยินดี และที่สำคัญนะคะแฟนจำได้ว่า เค้าเป็นคนที่เติมน้ำมันให้กับลูกค้ารายนี้เอง ส่วนน้ำมันที่สั่งมาก็เป็นของบางจาก และก่อนจะลงน้ำมันในถังใต้ดินทุกครั้งก็จะต้องตรวจสอบว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ทุกครั้งอยู่แล้ว โดยคนที่ลงน้ำมันก็ไม่ใช่ใคร ก็แฟนอีกล่ะค่ะเป็นคนทำเองทุกขั้นตอน เลยยิ่งมั่นใจ
หลังจากนั้นก็ไม่เห็นมีใครมาแจ้งทางเราเลยว่าผลเป็นอย่างไร
อยากถามอาจารย์ว่าหากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ควรจะทำอย่างไรดีคะ เพื่อป้องกันตัวเองจากลูกค้าที่ต้องการหาเงินด้วยวิธีแบบนี้ หรือมีวิธีโต้ตอบอย่างไรบ้างคะ เพื่อที่จะไม่ให้เค้าทำแบบนี้อีก...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ