เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน คุณพ่อกับคุณแม่ทำเรื่องเซ้งบ้านต่อจากญาติห่างๆ ท่านหนึ่ง สมมติว่าชื่อ "ศักดิ์สิทธิ์" เป็นการซื้อขาด แต่ไม่ได้มีสัญญาซื้อขายเนื่องจากเชื่อใจกัน ทั้งยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิให้เรียบร้อยอีกด้วย .. แต่ชื่อเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นชื่อของคุณพ่อคุณแม่แล้ว .. ส่วนที่ดินก็เป็นของเจ้าของอีกท่าน สมมติว่าชื่อ "สาธิต" ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จ่ายค่าเช่าที่ดินรายเดือนไม่เคยขาด ภาษีโรงเรือนคุณแม่ก็ชำระเรียบร้อยทุกปีในนามของคุณศักดิ์สิทธิ์
เนื่องจากทางเจ้าของที่ดินได้ตัดสินใจจะขายที่ดิน และคุณแม่ก็ตกลงจะซื้อที่ดินผืนนี้ แต่เรื่องบ้านที่ยังเป็นปัญหาคาใจอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากคุณศักดิ์สิทธิ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้คุณแม่กำลังติดต่อไปยังภรรยาและลูกหลานของคุณศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์
จึงมีคำถามค่ะว่า
1. การที่คุณแม่ติดต่อไปครั้งนี้ จะเป็นการทำให้ทางภรรยาและลูกหลานของคุณศักดิ์สิทธิ์ทราบว่ามีโครงบ้านนี้เป็นมรดกอีกชิ้น และเนื่องจากไม่มีสัญญาซื้อขาย จะทำให้ทางภรรยาและลูกหลานของคุณศักดิ์สิทธิ์ตุกติกกับเราได้หรือไม่
2. ถ้าหากเค้าตุกติก หากคุณแม่ซื้อที่ดินผืนนี้มาแล้ว สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินผืนนี้ที่เค้าไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ เราจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะถือว่าปลูกอยู่ที่ดินของเรา
รบกวนด้วยนะคะ .. ขอบคุณค่ะ
บ้านหลังนี้คนซื้อ (แม้ไม่มีสัญญาซื้อขายกันเป็นหนังสือ) น่าจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว มีปัญหาอยู่เฉพาะการชำระภาษีที่ไปชำระในนามของเจ้าของเดิม จึงอาจเป็นปัญหาในการอ้างว่าเป็นการครอบครองเพื่อตน ทางที่ดีควรหาทนายความให้ดูเรื่องให้เสียแต่ต้น