เรียนอาจารย์
คุณแม่หย่าขาดจากคุณพ่อและแยกกันอยู่เกือบสิบปีแล้ว น้องสาวสองคน อายุ 14 และ 18 อาศัยอยู่กับคุณแม่ที่ต่างจังหวัด โดยคุณพ่อจะส่งค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพครึ่งนึงเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน ช่วงปิดเทอมและวันหยุดยาวเทศกาล น้องจะเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่กับคุณพ่อเพื่อเยี่ยมเยียนและเรียนพิเศษ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือคุณแม่มีผู้ชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันโดยอ้างว่ามาช่วยงาน (ทำขนมขาย) เป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว และทุกครั้งที่ถามไถ่คุณแม่ก็จะอ้างว่าเป็นแค่คนงาน ไม่มีอะไร แต่เที่สอบถามจากน้องทั้งสองคือมีพฤติกรรมลักษณะชู้สาวอยู่บ่อยครั้ง และผู้ชายคนนี้ชอบแสดงตัวเหมือนเป็นพ่อของเด็กคือ มีอาการไม่พอใจเมื่อน้องสาวคนโตมีเพื่อนผู้ชายมาหาหรือโทรศัพท์มา บางครั้งก็ไม่ยอมให้รับโทรศัพท์ และมีอยู่บ่อยครั้งที่มีเรื่องถึงขั้นดุด่าและใช้กำลัง (ไม่รุนแรง เช่นผลัก) โดยที่คุณแม่ไม่ได้ห้าม เด็กโทรมาเล่าและปรึกษาว่าไม่อยากอยู่กับคุณแม่เพราะกลัวและอับอายเวลาเพื่อนที่โรงเรียนถามว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมอยู่บ้านเดียวกัน เป็นพ่อเลี้ยงใช่หรือไม่ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีอาชีพ มาอาศัยและช่วยงานจุกจิก และใช้เงินคุณแม่ (อายุน้อยกว่าคุณแม่ 10 กว่าปี) ตลอดมาคุณแม่ตระเวณพาน้องย้ายบ้านไปอยู่ตามบ้านเช่า จนปัจจุบันบ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นบ้านของน้องสาวคุณแม่ ซึ่งให้อยู่เพราะสงสารเด็ก
อยากทราบว่าในฐานะพี่สาวแท้ๆ อายุ 30 ปี มีอาชีพการงานและรายได้พอที่จะสามารถเลี้ยงดูส่งเสียเด็กได้จนเรียนจบ สามารถที่จะขอเป็นผู้ดูและอุปการะเด็กได้หรือไม่ หรือจะต้องเป็นคุณพ่อ (คุณพ่อรายได้ไม่มากเมื่อเทียบกับดิฉัน) และต้องทำอย่างไร ในกรณีที่คุณแม่ไม่ยอม เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนนั้นเคยโทรมาขู่คุณพ่อว่าอย่าเกลี้ยกล่อมเด็กให้กลับกรุงเทพนะ เค้าต้องการเป็นผู้ดูแลเด็กเอง เพราะดูมาตั้งแต่เล็ก แต่เด็กทั้งสองยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ยอมกลับไป ถ้าส่งกลับไปจะหนีออกจากบ้าน
ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยตอบด่วนและขอข้อมูลส่วนงานที่ต้องติดต่อด้วยค่ะ เนี่ยงจากใกล้เปิดเทอมแล้ว ต้องดำเนินการเรื่องที่เรียน เด็กเป็นเด็กเรียนดีและความประพฤติดี ไม่ต้องการให้เสียอนาคตค่ะ
เรียน พี่สาวคนโต
ให้พ่อเจรจากับแม่เพื่อรับมาอุปการะเสียเองโดยผ่านทางคุณ