ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    021505 จดทะเบียนซ้อนแล้วหย่าคนทุกข์ใจ25 เมษายน 2550

    คำถาม
    จดทะเบียนซ้อนแล้วหย่า

    เรียนอาจารย์มีชัยที่นับถือ

    ดิฉันมีเรื่องทุกข์ใจมากไม่ทราบหันหน้าไปปรึกษาใคร  แม้แต่พ่อแม่ดิฉันก็ไม่กล้าปรึกษากลัวท่านเสียใจ  แม่ดิฉันก็เป็นโรคหัวใจ  เรื่องคือดิฉันได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับสามี  เมื่อปี  2534  ปัจจุบันดิฉันอายุ 42 ปี  สามี  อายุ  68  ปี ปัจจุบันมีบุตร 2 คน  ตลอดการแต่งงานดิฉันไม่เคยทำตัวเป็นภรรยาที่ไม่ดี  ไม่เคยสร้างหนี้สิน  ประหยัด จนสามารถมีบ้าน (เป็นชื่อสามี ) รถยนต์ 2 คัน ( เป็นชื่อดิฉัน )ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้ แต่งงานโดยไม่ทราบว่าเขายังไม่ได้หย่ากับภรรยาคนเดิม  แต่แยกกันอยู่และไม่ได้ติดต่อกัน  ตั้งแต่  ปี  2525  สามีและญาติทางสามีเล่าให้ดิฉันฟังหลังจากที่ดิฉันทราบความจริงว่าเขายังไม่ได้หย่า  ภรรยาเขาไปสร้างหนี้สินไว้มากสามีทำงานต่างจังหวัดส่งเงินให้ใช้จ่ายก็ไม่พอ ภรรยาไปค้ำประกันเช็คให้ญาติซึ่งทำธุรกิจ  แล้วเช็คเด้งทำให้ถูกจับ ภรรยาเขาในฐานะผู้ค้ำก็โดนด้วย สามีต้องไปกู้เงินมาประกันตัว  เพราะกลัวลูกที่เกิดกับภรรยาเก่า 2  คนซึ่งกำลังเรียนจะมีปัญหาแล้วเรียนไม่จบ   ทำให้สามีมีหนี้สินติดตัวหลายแสนบาทต้องถูกหักเงินเดือนใช้หนี้  และยังส่งเสียลูก 2 คนจนจบปริญญา  เงินเดือนสามีไม่เคยเหลือทั้งๆที่ทำงานรัฐวิสาหกิจเงินเดือนหลายหมื่นบาท   แต่ไม่เคยให้เงินดิฉันใช้เลย  เขาจะรับผิดชอบเรื่องนมและค่าใช้จ่ายของลูกเท่านั้น  ดิฉันรับราชการจึงไม่เดือดร้อน มาทราบภายหลังว่าดิฉันจดทะเบียนซ้อนเราทะเลาะกันจึงไปหย่ากันเมื่อมีบุตรคนที่ 1   ปี 2537  ต่อมามีเหตุที่ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันเนื่องจากดิฉันเกิดท้องบุตรคนที่ 2 ปี ระหว่างที่อยู่ด้วยกันสามีได้ซื้อที่ดินและปลูกบ้านอยู่ที่จังหวัดที่สามีทำงาน  โดยที่เป็นชื่อของสามีคนเดียวภรรยาเขาไม่ทราบ ส่วนดิฉันทำงานอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง อาศัยอยู่กับพ่อแม่ตนเอง  ปี  2540  สามีเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำต้องผ่าตัดสมอง  รักษาตัวเป็นครึ่งปี พี่สาวสามีมาช่วยดิฉันดูแลจนสามีอาการดีขึ้น  ภรรยาเขาทราบก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือติดต่อใดๆ  ลูกๆเขา 2 คนมาเยี่ยมพ่อ  2  ครั้งครั้งแรกตอนอยู่ ไอซี ยู  ครั้งที่ 2  ตอนพักฟื้นที่บ้านดิฉัน  มาเยี่ยมเช้า เย็นบินกลับ  หลังจากนั้นปี  2541 สามีลาออกจากงานก่อนเกษียณอายุได้เงินมาหักหนี้แล้วเหลือเงิน ไม่ถึงล้านบาท  ทั้งที่ยอดที่ได้เกือบ  2  ล้านภรรยาเขาทราบจึงมาขอหย่าสามีก็ไปตามนัด  ปี 2541 นี้  ดิฉันได้จดทะเบียนสมรสกับสามีอีกครั้งเพราะต้องการให้สามีใช้สิทธิสวัสดิการของดิฉัน  ปี่  2547  สามีไปทำงานต่างจังหวัด เดือนหนึ่งกลับมาบ้านครั้งหนึ่งดิฉันมาทราบเมื่อปลายปี  2549  ว่าสามียังไม่ได้หย่ากับภรรยาเดิมเขาเพราะภรรยาเขาต้องการเงินค่าเซ็นหย่า  1  ล้านบาทสามีเห็นว่าเกินไปจึงไม่ให้ก็เลยไม่ได้หย่า  ดิฉันจึงจดทะเบียนหย่ากับสามีอีกครั้ง  หลังจากนั้นสามีได้ไปฟ้องหย่าภรรยาเขาและน้องชายภรรยาเขาบอกสามีว่า  ขอเงิน  2  แสน  แล้วจะหย่าให้สามีก็พยายามหาเงินกู้มาบ้าง  ยืมญาติบ้าง  จะได้สิ้นสุดกันแต่ญาติสามีเกิดเสียดายเงินให้เก็บไว้ให้ลูกอีกสองคนไว้เรียนหนังสือดีกว่า  เพราะสามีก็อายุมากแล้วทำงานอีก  1  ปีก็จะหมดสัญญาจ้าง  ลำพังเงินเดือนดิฉันแทบไม่พอใช้เพราะดิฉันต้องเลี้ยงดูพ่อและแม่อีก  จึงไม่ให้  ทางภรรยาเขาตั้งทนายสู้หาว่าสามีแจ้งความเท็จ  มารู้ภายหลังว่าทนายความที่สามีไปว่าจ้างนั้นเขียนเหตุฟ้องเป็นว่าฝ่ายภรรยาเขาทิ้งร้างไป  ไม่ไช่แยกกันอยู่  สามีไม่รู้ข้อกฎหมาย  บอกว่าไปปรึกษาแล้วทนายบอกฟ้องได้ก็เอาเอกสารให้เซ็นชื่อโดยที่ไม่เคยเอาสำนวนเหตุฟ้องหย่าให้อ่าน  บอกว่าเขาจะจัดการให้เองทั้งหมด  ขอค่าดำเนินการ  3  หมื่นบาท  สามีอยากให้เรื่องมันจบโดยเร็วจ่ายเงินไปเรียบร้อย  มาอ่านสำนวนฟ้องก่อนที่ศาลจะนัดไปไกล่เกลี่ย  ถึงรู้ว่าทนายยื่นว่าเหตุฟ้องหย่าไม่ไช่ตามที่เป็นจริง  สู้ไปก็แพ้  เลยถอนฟ้อง  เสียเงินไปเปล่าๆเพราะความไม่รู้กฎหมายจนป่านนี้สามีก็ยังอยู่ต่างจังหวัด  หาเงินใช้หนี้และส่งค่าใช้จ่ายของลูกๆ  ดิฉันสงสารสามีมากที่ยังไปทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัว  และเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูก  ดิฉันขอเรียนถามดังนี้

    1.  สามีสามารถฟ้องหย่าภรรยาเขาได้หรือไม่  โดยใช้เหตุว่าแยกกันอยู่เกิน  3  ปี  และภรรยาเขาก็ไม่เคยมาดูแลกันยามเจ็บป่วย

    2.  ดิฉันไม่ทราบว่าเขายังไม่ได้หย่า  ดิฉันมีความผิดหรือไม่ที่จดทะเบียนซ้อน  ภรรยาเขาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากดิฉันได้หรือไม่

    3.  ภรรยาเขาทราบว่าสามีมีดิฉันและมีลูกด้วยกันเขาไม่เคยติดตามเป็นข้ออ้างว่าเขายินยอมให้สามีมีหญิงอื่นหรือไม่

    4.  ดิฉันถือเป็นผู้เสียหายได้หรือไม่เนื่องจากดิฉันถูกหลอกทำให้ได้รับความอับอาย  หรือว่าถือว่าดิฉันโง่เอง  กฎหมายไม่ให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในฐานะอย่างดิฉัน บ้างหรือคะ

    3.  บ้านที่เป็นชื่อของสามี  สามีจะยกให้บุตรทั้งสองที่เกิดกับดิฉันจะได้หรือไม่คะ บุตรคนแรกเกิดขณะสมรสซ้อน  คนที่ 2  ไม่ได้จดทะเบียน  แต่สามีไปแจ้งเกิดด้วยตนเอง

    4.  สามีจะขายบ้านนั้นจะได้หรือไม่คะ  เงินส่วนหนึ่งสามียืมพี่สาวสามีมาสร้าง  แต่เป็นชื่อสามีคนเดียว

    5.  ดิฉันสามารถเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรกับสามีได้หรือไม่ การสมรสระหว่างดิฉันเป็นโมฆะ ไม่ต้องหย่าก็ถือว่าไม่มีสิทธิไช่หรือไม่

    6.  สามีบอกว่าถึงอย่างไรก็จะไม่ไปอยู่กับลูกทางโน้นเพราะลูกเขาก็ไม่เคยติดต่อพ่อเขาอีกเลยหลังจากที่ขอเงินพ่อไปซื้อรถไม่ได้  (ลูกสาว ) ลูกชายแต่งงานจัดงานใหญ่โตไม่บอกพ่อ  พ่อทราบจากอาของลูก ก่อนสามีเสียชีวิตสามารถทำหนังสือมอบให้ใครเป็นผู้จัดการศพได้หรือไม่

    7. ดิฉันยังคงใช้นามสกุลสามีได้หรือไม่  โดยที่สามีและพี่น้องสามียินยอม  เนื่องจากดิฉันไม่อยากให้พ่อแม่และลูกดิฉันทราบ  รวมทั้งดิฉันอายเพื่อน  คนที่ทำงาน  และเกิดการยุ่งยากในการเปลี่ยนแปลงเอกสาร  บัตรต่างๆด้วย

    สุดท้ายนี้ดิฉันขอขอบพระคุณอาจารย์ที่จะกรุณาตอบ  ให้ดิฉันคลายทุกข์ไปได้บ้าง

     คนทุกข์ใจ

    คำตอบ

    เรียน คนทุกข์ใจ

      1. ใช้เป็นเหตุได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายต่อสู้ว่าสามีไปมีหญิงอื่น ก็อาจลำบากหน่อย

      2. ในครั้งแรกคุณไม่ทราบ จึงไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ครั้งที่สองเป็นความเข้าใจผิดที่เข้าใจว่าเขาหย่ากันแล้ว จึงไม่ใช่ความผิดของคุณอีกเช่นกัน

      3. อาจยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปเช่นนั้นได้

    4. ขายได้

    5. ได้

    6. ทำได้

    7. เมื่อเจ้าของนามสกุลเขายินยอมก็ใช้ได้


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    25 เมษายน 2550