ผมมีพี่น้องรวม 3 คน โดยพี่ชายพักอาศัยอยู่กับคุณพ่อและพี่สะใภ้ (พี่ชายแต่งงานกับพี่สะใภ้แต่ไม่มีลูกด้วยกัน) สำหรับผมกับน้องสาวอีกคนมีครอบครัวแยกบ้านออกมา เมื่อ 8 ปีทีแล้ว คุณพ่อเสียชีวิต ทรัพย๋สินที่มีคุณค่าทางจิตใจบางอย่าง (เช่น พระพุทธรูป แหวนของคุณตา เป็นต้น) ไม่ได้แบ่งปันกัน (คุณพ่อก็ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วย) พี่ชายยังคงดูแล ครอบครองเรื่อยมา แต่ในเดือนธันวาคมปี 2549 พี่ชายได้เสียชีวิตลง ผมและน้องสาวจึงเจรจากับพี่สะใภ้เพื่อขอคืนพระพุทธรูป แหวนคุณตา เพราะเห็นว่าเป็นมรดกของตระกูล แต่พี่สะใภ้ไม่ยินยอม จึงอยากเรียนถามท่านอาจารย์มีชัยฯดังนี้
1. ก่อนพี่ชายเสียชีวิต พระพุทธรูป แหวนคุณตา ได้ตกเป็นของพี่ชายเพียงคนเดียวใช่หรือไม่? (พี่ชายครอบครองไว้ประมาณ 8 ปีหลังคุณพ่อเสียชีวิต แต่คุณพ่อก็ไม่ได้มีพินัยกรรมมอบให้พี่ชายแต่อย่างใด)
2. ถ้าผมและน้องสาว จะฟ้องร้องทางศาลให้แบ่งมรดกของคุณพ่อ (พระพุทธรูป แหวนคุณตา) จากพี่ชาย (เสียชีวิตแล้ว) ได้หรือไม่? เพื่อให้รู้ว่าผมและน้องสาวยังมีส่วนในมรดกคุณพ่อ มิใช่ตกเป็นของพี่ชายคนเดียว
3. หากมีการฟ้องร้องแบ่งมรดกกันตามกฏหมาย การประเมินราคาของเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางจิตใจ (พระพุทธรูป แหวนคุณตา) จะมีวิธีการประเมินราคาอย่างไร?
4. ผมและน้องสาวจะมีวิธีการอย่างไร เพื่อให้ได้ของเก่าแก่ประจำตระกูล (พระพุทธรูป แหวนคุณตา) คืนมา (ไม่ต้องการให้ตกอยู่กับบุคคลนอก-พี่สะใภ้)
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มีชัยฯล่วงหน้าสำหรับคำตอบที่ท่านมีเมตตา
9 เมษายน 2550
1. เมื่อไม่มีทายาทคนใดติดใจ และล่วงพ้น 1 ปีไปแล้ว ทรัพย์เหล่านั้นก็ย่อมตกเป็นของพี่ชาย แต่เมื่อพี่ชายตายโดยไม่มีบุตร ทรัพย์สินเหล่านั้นซึ่งเป็นสินส่วนตัว ก็ตกทอดได้แก่คู่สมรสและทายาทโดยธรรม โดยคู่สมรสได้กึ่งหนึ่ง อีกหนึ่งตกได้แก่ทายาทโดยธรรม คือ พี่น้องร่วมบิดาและมารดาเดียวกัน
2. การติดตามเอามรดก ต้องติดตามมรดกของพี่ชาย ไม่ใช่มรดกของพ่อ
3. -4.ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องนำออกขายทอดตลาด ทายาทแต่ละคนก็มีสิทธิเข้าสู้ราคาได้