เรียน ท่านมีชัยฯ ที่เคารพอย่างสูง
ดิฉันขอเรียนถามว่า หากดิฉันบังคับคดียึดทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้มีหนี้ปริมาณมาก ดิฉันคำณวนแล้วต้องไม่พอเหลือมาชำระหนี้ถึงดิฉันได้ค่ะ แต่ดิฉันเดินเรื่องต่อศาลฯ แล้วเพื่อขอเข้าเฉลี่ยหนี้จำนองของลูกหนี้ ดิฉันอยากทราบว่าดิฉันควรจะต้องดำเนินการต่อไปอีกหรือไม่ หรือหยุดอยู่เพียงขั้นตอนนี้ เพราะตอนนี้ศาลไต่สวนคำร้องของดิฉันแล้ว รอฟังเพียงคำพิพากษาของศาลค่ะ ขอท่านฯ ช่วยกรุณาแนะนำดิฉันด้วยค่ะ และมีอีก 1 ข้อ ค่ะ คือว่าตัวลูกหนี้เองไม่มีทรัพย์ใดๆ เลย มีเพียงแต่ทรัพย์ที่ได้มาจากมรดกของลูก (กล่าวคือ ตอนแรกทรัพย์นี้เป็นของสามีของลูกหนี้ ต่อมาสามีลูกหนี้เสียชีวิต และได้ทำพินัยกรรมไว้ให้บุตรของเค้า บุตรของเค้าก็ได้รับ (ณ ตอนนี้แหละค่ะที่ดิฉันทำเรื่องยึดทรัพย์แล้ว ปรากฏว่าเป็นทรัพย์พินัยกรรมที่บิดาของเค้ายกให้แก่บุตร มิใช่ของตัวลูกหนี้) ดิฉันจึงยึดไม่ได้ ต่อมาบุตรของลูกหนี้คนเนี้ย..ถึงแก่กรรมค่ะ และได้นำทรัพย์นี้จำนองธนาคารฯ ไว้ด้วย และผู้ตาย (บุตร) ได้ยกทรัพย์อันนี้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหนี้คนนี้ค่ะ ในฐานะทายาทผู้ได้รับสิทธิจากผู้ตาย (ขณะนี้ดิฉันขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์หลังจากปลดจำนองอยู่ค่ะ) ดิฉันขอเรียนถามว่า ดิฉันจะสามารถขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์หลังหักจำนองของลูกหนี้รายนี้ได้หรือไม่ค่ะ (ตอนนี้ทรัพย์ลูกหนี้รายหนี้ถูกธนาคารฯ ยึดขายทอดตลาดอยู่ค่ะ) ดิฉันขอรบกวนถามท่านฯ เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
เรียน คุณจิตรารัตน์
คงไม่ใช่เรื่องเฉลี่ยทรัพย์ หากแต่เป็นการยึดหรืออายัดเพื่อรับชำระหนี้ภายหลังจากที่ชำระหนี้เจ้าหนี้จำนองแล้ว ที่ถามว่าจะทำได้หรือไม่นั้น คำตอบคือทำได้ เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่หนี้ที่บังคับจำนองมักจะมีมากกว่าราคาทรัพย์ที่จะขายได้ เพราะธนาคารนั้นปกติจะบังคับจำนองก็ต่อเมื่อมีหนี้ท่วมราคาทรัพย์แล้วเสมอ ดังนั้นเมื่อขายทรัพย์ได้จึงไม่เหลือเงินไว้ให้เจ้าหนี้รายอื่นรับไปได้