เรียน ท่านมีชัยฯ ที่เคารพเป็นอย่างสูง
ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษาท่านฯ ดังนี้ค่ะ สามีเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาศาลและได้บังคับยึดทรัพย์ของลูกหนี้ออกขายทอดตลาดแล้ว แต่ไม่เป็นผลเพราะลูกหนี้ได้ถ่ายโดนทรัพย์สินให้เป็นมรดกของบุตรของลูกหนี้ด้วยในขณะนั้น ตัวลูกหนี้เองจึงไม่มีทรัพย์สินใดๆ เหลือใหเจ้าหนี้ยึดอีกต่อไป ณ ขณะนี้เป็นเวลา 9 ปี 11 เดือนกับอีก 20 วัน ที่เหลือให้เจ้าหนี้ไว้บังคับคดีได้ ปรากกฏว่า วันหนึ่งดิฉันไปธุระที่สำนักงานบังคับคดี ก็ไปยืนดูประกาศของสำนักงานบังคับคดที่ประกาศขายมรัพย์สินไว้ ก็ไดพบประกาศของลูกหนี้รายเดียวกับที่สามีดิฉันเป็นเจ้าหนี้จะยึดค่ะ ดิฉันดีใจมาก ก็รีบไปปรึกษาเจ้าหน้าที่บังคับคดี เค้าบอกว่าลูกหนี้รายหนี้ถูกธนาคารฯ ยึดจำนอง ถ้าหากข้าพเจ้าเป็นเจ้าหนี้ต้องการหนี้ด้วย ให้ไปร้องศาลเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์หลังจากเจ้าหนี้จำนองแล้ว หรือหากเจ้าหนี้จำนองถอนการยึดก็ให้เจ้าหนี้ยึดเป็นลำดับต่อไปได้ ข้พาเจ้าจึงทำตามดังนั้น คือ ให้สามีเขียนคำร้องต่อศาลเพื่อขอเฉลี่ยหนี้หลังเจ้าหนี้จำนองแล้ว และหากเจ้าหนี้จำนองถอนการยึดสามีก็จะขอยึดเป็นลำดับต่อไปค่ะ ตอนนี้ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องแล้วค่ะ แต่ลูกหนี้และเจ้าหนี้จำนองไม่มาศาลถือว่าทราบแล้วไม่คัดค้านค่ะ ดิฉันอยากเรียนถามอาจารย์ว่า การที่ศาลพูดว่า"หนี้จะพอมาให้เฉลี่ยหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ลูกหนี้มียอดหนี้สูงมากกับเจ้าหนี้จำนอง" ศาลพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรค่ะ แล้วหากศาลอนุญาตให้สามีเข้าเฉลี่ยทรัพย์ลูกหนี้ตามข้างต้นแล้ว สามีจะต้องรอคอยอีกนานเท่าใด และจะได้อะไรบ้างค่ะ มีระยะเวลาในการได้ทรัพย์ของลูกหนี้อีกกี่ปีค่ะ ขอท่านฯ ช่วยตอบดิฉันด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ หมายเหตุ ขณะนี้ลูกหนี้รายหนี้กำลังต่อเติมบ้านบนที่ดินแปลงที่กำลังพิพาทอยู่ค่ะ และทางสนง.บังคับคดีบอกว่าตอนนี้ลูกหนี้อยู่ระหว่างประนอมหนี้กับธนาคารอยู่ จึงไม่มีประกาศขายทรัพย์ แต่ธนาคารฯ ก็ไม่ถอนการยึดค่ะ ดิฉันดูท่าทางของลูกหนี้แล้ว ดูว่าจะไม่กลัวการถูกยึดหรือถูกเฉลี่ยทรัพย์สินนี้เสียเลยค่ะ เค้าเฉยตลอด ทั้งๆ ที่พบกันก็ไม่เคยคุยเลยค่ะ ดฺฉันว่าหากเค้าคุยแล้วอยากประนอมหนี้กับเราบ้างเราก็จะมีทางออกให้เค้าได้เหมือนกันค่ะ ขอท่าฯ ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยว่าต้องทำอย่างไรสำหรับเรื่องนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ