ข้าราชการทำงานเอกชนถูกตัดเงิน ประกันสังคม ทำให้มีสิทธิ 2 สิทธิ ถูกราชการออก พรบ.ตัดสิทธิราชการ และได้ข่าวว่า กฤษฎีกา ตอบคำถามว่าไม่เป็นการรอนสิทธิ อยากถาม อ.เรื่องความเห็นตามที่ กรมบัญชีกลางตอบด้านล่าง
. 1.ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 9 ได้บัญญัติ กรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกานี้ หรือบุคคลในครอบครัวของผู้มีสิทธิหรือได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลจากหน่วยงานอื่นแล้วผู้นั้นไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ตามพระราชกฤษฎีกานี้ เว้นแต่ค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับนั้นต่ำกว่าเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่จะได้รับก็ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะส่วนที่ขาดอยู่2. ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0417/ว171 ลงวันที่ 3 มิ.ย.46 เรื่องซ้อมความเข้าใจ กรณีเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามสิทธิต่างๆ เช่น ประกันสังคม พระราชกฤษฎีกาประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งมีหลักการในการสร้างประกันให้แก่ผู้ประกันตนในการดำรงชีพ โดยบัญญัติให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนกรณีต่างๆซึ่งรวมถึงการคลอดบุตร กรณีที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยด้วย ดังนั้น กรณีบุคคลในครอบครัวของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับเบี้ยหวัด/บำนาญที่เป็นผู้ประกันตนและมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการประเภทผู้ป่วยนอกและในหรือสถานพยาบาลเอกชนประเภทผู้ป่วยในให้บุคคลในครอบครัวดังกล่าวใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติประกันสังคมก่อนและผู้มีสิทธิไม่สามารถขอรับเงินค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลในครอบครัวนั้น ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ กรณีที่หารือ ผู้ประกันตนจะต้องถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในข้อ 1-2 ข้างต้น
ตามข้อเท็จจริงที่ว่ามานั้น ไม่ใช่เรื่องข้าราชการมีประกันสังคม หากแต่ในการให้สวัสดิการแก่ข้าราชการนั้นได้เผื่อแผ่ไปถึงบุตร ภรรยา และบิดามารดาด้วย แต่บุคคลเหล่านั้นซึ่งไม่ได้เป็นข้าราชการบางคนอาจทำงานเอกชนที่มีประกันสังคมและสามารถเบิกจากประกันสังคมได้ อย่างนี้ทางราชการก็ไม่มีเหตุจะต้องเผื่อแผ่อะไรให้อีก เป็นข้าราชการนั้นต้องพยายามศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ให้ละเอียด