ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เรียนท่านอาจารย์มีชัย
ผมเข้ามาที่ Web Site ของอาจารย์ พยายามหาช่องทางที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญแต่ไม่พบ พบแต่ส่งคำถามถึงท่านอาจารย์ ดังนั้นสิ่งที่ผมส่งมานี้ไม่ใช่คำถามแต่ต้องการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญๆของรัฐธรรมนูญที่เคยมีปัญหาในอดีต และวิธีหรือแนวทางแก้ไขดังนี้ครับ
ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 โดยรัฐบาลชุดที่แล้วผมว่ามีสาเหตุมาจากการที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่นักการเมืองมากเกินไป สามารถชี้นิ้วสั่งการแก่ข้าราชการประจำ หรือให้คุณให้โทษ แก่ข้าราชการประจำ สั่งโยกย้ายได้ง่ายมากถ้าเขาไม่พอใจ จึงทำให้ข้าราชการทุกระดับ(ส่วนมาก)ต้องรับใช้นักการเมือง ใครไม่ทำงานรับใช้นักการเมืองจะอยู่ไม่ได้ ประเด็นนี้ผมคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญมากเพราะเป็นสาเหตุการสร้างฐานอำนาจของเผด็จการประชาธิปไตย ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งข้อดี และข้อเสีย อย่างกรณีที่ผมกล่าวมานี้ถ้านักการเมืองเป็นคนดี การมีอำนาจสูงสุด หรือมีอำนาจมากก็จะไม่เกิดปัญหา แต่ถ้านักการเมืองเป็นคนจิตใจไม่ดี ผลก็จะเป็นดังที่ผ่านมา ต้องยอมรับครับว่า สส.ของประเทศเราส่วมมาก(เกิน 90%)เข้ามาด้วยวิธีการทุจริต จึงเกิดปรากฏการณ์ สส.เมืองไทยมีแต่คนมีเงิน เป็นนักธุรกิจในท้องถิ่นนั้น และวางเครือข่ายฐานเสียงด้วยอำนาจเงินอย่างแน่นหนาเพื่อการเป็นสส.ตลอดกาลของตระกูลนั้นๆ
ผมคิดว่าระบบการเลือกตั้งของบ้านเรายังขาดความถูกต้องตามหลักการและเหตุผลอยู่กล่าวคือประชนผู้ลงคะแนนเสียงเลือกผู้แทนมากกว่า 90 % ยังไม่รู้จักคำว่าประชาธิบไตย ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าสิทธิของความเป็นประชาชนคนไทยมีอะไรบ้างยังไม่ทราบเลย จึงไม่เห็นความสำคัญของการเลือกตั้งผู้แทนตัวเอง เขามีความคิดฝังใจว่าเลือกใครเข้าไปก็เหมือนกัน ดังนั้นใครให้เงินก็เลือกคนนั้น จึงทำให้เกิดปัญหารการได้ สส.ส่วนมากเป็นคนมีเงินเท่านั้น ดังนั้นผมจึงคิดว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะให้อำนาจนักการเมืองอย่างเต็มที่เหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นผมจึงเสนอว่าควรลดอำนาจให้นักการเมืองมีอำนาจเฉพาะกำกับและตรวจสอบการทำงานของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ไม่ให้มีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษข้าราชการเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้คานอำนาจกัน ข้าราชการจะทำอะไรนอกลู่นอกทางไม่ได้เพราะมีตัวแทนของประชาชนคอยกำกับและตรวจสอบอยู่ นักการเมืองจะสั่งหรืออนุมัติโครงการที่ไม่ชอบมาพากลตามอำเภอใจม่ได้เพราะข้าราชการไม่ได้ถูกกดขี่ห่มเหงจากนักการเมืองได้ง่ายๆ ขณะเดียวกัยเราต้องให้การศึกษา และให้ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพ หรือสิทธิพึงมีพึงได้ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ถ้าประชาชนส่วนมากของประเทศรู้จักสิทธิอันพึงมีพึงได้ด้วยความชอบธรรมของตนเองแล้ว ระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินจึงจะเป็นไปได้
ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผมและประชาชนทั่วไปพบคือการที่มี อบต.และมีการเลือกตั้งนายก อบต. และสมาชิก อบต. ยิ่งเลวร้ายกว่า สส. นักการเมืองท้องถิ่นเหล่านี้ที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการกำหนดความเป็นความตายของข้าราชการใน อบต.เช่น ปลัด อบต. คลัง และโยธา ของ อบต.อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันยิ่งทำให้ระบบการบริหารจัดการของ อบต.เลวร้ายมาก เกิดการทุจริตคอรัปชันอย่างมาก สร้างฐานอำนาจของนักการเมืองท้องถิ่น และมีสายใยเชื่อมโยงกับนักการเมืองระดับชาติ ท่านอาจารย์ทราบหรือไม่ครับว่า การบรรจุข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำของ อบต.เขากำหนดเป็นมาตรฐานทั่วประเทศว่าผู้ที่ต้องการบรรจุต้องจ่ายให้นายก อบต.ในอัตรา ซีละ ประมาณ 1 แสนบาท(ผมมีประสบการณ์กับหลานผมเองที่สอบขึ้นบัญชีตำแหน่งนักพัฒนาชุมชนของ อบต.ที่ศูนย์ขอนแก่นได้ แต่วิธีการบรรจุเขาให้ผู้มีรายชื่อขึ้นบัญชีไปติดต่อ อบต.ที่จะบรรจุเองจึงทราบว่าถ้าต้องการบรรจุต้องจ่ายอัตราซีละ 1 แสนบาท หลานผมซี 3 ต้องจ่าย 3 แสน แต่ผมไม่ให้จ่ายไม่ได้ก็อย่าไอมันเลย) การพัฒนาท้องถิ่นที่ว่าจะให้ประชาชนปกครองกันเองนั้นผมว่ามันยังห่างไกลกับความเป็นจริงของบ้านเรามากเพราะประชาชนเขายังไม่รู้จักสิทธิอันพึงมีพึงได้โดยชอบธรรมของเขาเลย ดังนั้นนักการเมืองทุกระดับต้องลดอำนาจลงตามแนวทางที่ผมได้เสนอไป ผมคิดว่าถ้ากำหนดอำนาจหน้าที่นักการเมืองอย่างที่ผมเสนอจะทำให้นักการเมืองที่ต้องการทุ่มเงินซื้อเสียงเข้าไปเพื่อไปกอบโกยหรือทุจริตคอรัปชันไม่กล้าลงทุน ก็จะมีแต่คนที่อาสาสมัครเป็นตัวแทนของประชาชนจริงๆไปเล่นการเมือง ผมว่าจะทำให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆนี้จะเป็นไปได้ครับ
ผมทราบข่าวว่ามีการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผมคิดว่าทำได้ครับถ้าจำกัดอำนาจนักการเมืองลงตามที่ผมเสนอ ถ้าไม่เช่นนั้นถ้าไม่เช่นนั้น ผู้รับเหมาหรือเถ้าแก่พร้อมบริวารพวกพ้องจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ประชนระดับสูง กลาง และตำคงอยู่ลำบากครับ
สรุปว่าลดอำนาจนักการเมืองตามแนวทางที่ผมเสนอ โดยสิทธิต่างๆของ สส.ที่พึงมีพึงได้ยังคงเดิมเมืองไทยต้องไปรอดแน่นอน |